รายงานพิเศษ "ลึกทันใจ" เผยแพร่ทางแฟนเพจ NEWS1 และ Tiktok newsonetiktok วันที่ 9 มิถุนายน 2566 ตอน ปริศนากองทัพสหรัฐฯ ยึดสนามบินอู่ตะเภาเผือกร้อนในมือ ผบ.ทร.
สหรัฐอเมริกาเข้ามาใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นฐานทัพ มีการพูดถึงกันมากขึ้น แต่มีความชัดเจนเมื่อเร็วๆนี้ นายธีระชัย ภูวนาภนรานุบาล อดีต รมต.ว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาเปิดประเด็นพบข้อมูลที่มีการตรวจพบว่า
กองทัพสหรัฐเข้ามาใช้สนามบินอู่ตะเภาเพื่อประโยชน์ทางทหาร ผ่านการเช่าพื้นที่ของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง
ที่ทำสัญญาเช่าพื้นที่สนามบินอู่ตะเภาในเชิงธุรกิจ ยังผลให้กองทัพสหรัฐยังคงใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นฐานสนับสนุนการขยายอำนาจไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ
ซึ่งนายธีระชัยออกมาเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีรักษาการ ซึ่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับท่าทีและนโยบายด้านการต่างประเทศระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา
แน่นอนว่าข้อเรียกร้องดังกล่าว ย่อมกระทบไปถึง พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. และประธานบริหารการท่าอากาศยานอู่ตะเภาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพราะ “บิ๊กจอร์จ” ต้องตอบได้ว่า “บริษัทปริศนา” ที่มาเช่าพื้นที่อู่ตะเภารายดังกล่าวเป็นใคร และในรายละเอียดของสัญญาเช่าเป็นอย่างไร มีการดำเนินการนอกเหนือหรือผิดไปจากที่ระบุในสัญญาหรือไม่ ?
ที่สำคัญที่สุดก็คือ มีข้อมูลเชิงลึกจากแหล่งข่าววงในระบุว่า มีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตสหรัฐอเมริกาเดินทางจากถนนวิทยุไปยังสนามบินอู่ตะเภาบ่อยครั้ง จนผิดปกติ
เพราะเนื้องานของสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยไม่น่าจะมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับสนามบินอู่ตะเภาซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่ 3 ของไทยโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ถ้าคิดในเชิงบวก หากจะมีการใช้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อประโยชน์ทางทหารโดยแฝงมากับการเช่าพื้นที่ผ่านบริษัทที่เป็นคู่สัญญากับสนามบินอู่ตะเภา ผู้ที่เข้ามาประสานงาน น่าจะเป็นผู้ช่วยทูตทหารสหรัฐประจำประเทศไทย มากกว่าเจ้าหน้าที่พลเรือนจากสถานทูตสหรัฐ
แต่ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม ปริศนาอเมริกากับสนามบินอู่ตะเภาจึงเป็น “เผือกร้อน” อีกอันหนึ่งในมือของ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 4 เดือน ก็จะพ้นจากหน้าที่
เช่นเดียวกับเรื่องเรือดำน้ำและการกู้เรือสุโขทัยที่ยังคงคาราคาซัง อยู่บนมือของบิ๊กจอร์จในตอนนี้