รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “แม่เปิ้ล” และ “น้องตวัน” ที่ จ.ราชบุรี น้องตวันที่แม้วันนี้จะอายุ 14 แล้ว แต่ร่างกายยังเหมือนเด็ก ซึ่งเป็นผลจากที่เคยผ่าตัดเนื้องอกในสมองมา 2 ครั้ง และส่งผลข้างเคียงต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะอย่างไร แม่คนนี้พร้อมสู้และดูแลรักษาลูกให้ดีที่สุดเท่าที่แม่คนหนึ่งจะทำได้
นฤสา กบิลสิงห์ หรือแม่เปิ้ล มีลูกชาย 2 คน คือ "ตวัน" อายุ 14 และ "ภูผา" อายุ 10 ขวบ ซึ่งลูกชายคนเล็กปกติดี แต่ตวันมีปัญหาเรื่องสายตาข้างขวาตั้งแต่เด็ก แม่เปิ้ลพาไปหาหมอรักษาอยู่นาน ก็ไม่หาย สุดท้ายเมื่อหมอสแกนสมองจึงรู้สาเหตุว่า มีก้อนเนื้อทับเส้นประสาทตา ได้รับการผ่าตัดครั้งแรกตอนอายุ 7 ขวบ
"ก่อนผ่า หมอบอกเลยว่า ไม่ตาย ก็พิการ ก็ตาบอด หมอไม่อยากให้ความหวังอะไรแม่ เพราะถ้าผ่าแล้วไม่กลับมาเหมือนเดิม กลัวแม่จะหวังกับหมอเกินไป ผ่าครั้งแรกปี 59 ผ่าทางโพรงจมูก ก่อนผ่าก้อนเนื้อขนาด 5 ซม. พอผ่าออกไปแล้ว เหลือประมาณ 2-3 ซม. พอปี 60 ผ่าอีกครั้ง ผ่าแบบเปิดกะโหลก ผ่าแล้ว ยังเหลือก้อนเนื้อประมาณ 1 ซม.นิดๆ"
แม้ผ่าตัดไปแล้ว 2 ครั้ง แต่สายตาข้างขวาที่มองเห็นแค่ลางๆ ไม่ชัดจากการถูกก้อนเนื้อกดทับเส้นประสาทตา ก็ยังไม่หาย ขณะที่ตาข้างซ้ายยังเห็นชัด แต่ต้องใส่แว่นเพื่อประคองสายตาไว้
นอกจากเรื่องสายตา ตวันยังต้องพบกับผลข้างเคียงที่หมอจำเป็นต้องตัดฮอร์โมนบางตัวออกไปพร้อมเนื้องอก เพราะอยู่บริเวณเดียวกัน ส่งผลให้ร่างกายน้องหยุดการเจริญเติบโต ทำให้ดูเหมือนเด็ก ทั้งที่ขณะนี้อายุ 14 ปีแล้ว
“ตวันโดนตัดฮอร์โมนออกไป 2 ตัว เป็นฮอร์โมนที่ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต พอถูกตัดไป ตวันก็เลยโตไม่ทันเพื่อน เหมือนเด็กอายุ 7-8 ขวบ และตวันจะมีอาการน็อค เพราะตัวน้ำตาลตก โพแทสเซียม เกลือแร่ ตกบ่อยๆ เพราะมันเกี่ยวกับที่โดนตัดฮอร์โมนออกไป และเส้นเลือดตีบ คู่หน้าในสมองตีบ 1 เส้น ตอนนี้ก็กินยาละลายลิ่มเลือดอยู่”
ตวันยอมรับว่า การที่ร่างกายตัวเล็กเหมือนเด็ก ทำให้บางครั้งเคยถูกเพื่อนล้อ"เพื่อนก็ล้อเลียนหนู ไอ้เตี้ย เพื่อนมันก็สูงอะนะ หนูก็ทำใจ ...รู้สึกหดหู่นิดหน่อย แต่ก็ทำใจได้แล้ว”
ขณะที่ยายสาธิต ทุบจิ๋ว ญาติผู้ใหญ่ ซึ่งพักอยู่ด้วยกัน ก็อดสงสารตวันไม่ได้ที่ถูกเพื่อนบูลลี่ พร้อมปลอบใจให้หลานอย่าท้อ
“สงสารหลานมาก (เสียงสั่นร้องไห้) ไม่อยากให้ใครมาบูลลี่หลานเลย เพราะเคยได้ยินกับหู เรียกว่า ไอ้เตี้ย ไม่ชอบ ไม่อยากให้ใครมาดูถูกหลาน ยายก็บอกหลานว่า ตวัน หนูต้องสู้นะ เอาสิ่งที่เขาดูถูก มาเป็นแรงผลักดันให้ชีวิตเราดีขึ้น อย่าท้อ เราเป็นแค่นี้ คนอื่นเขาอาจเป็นมากกว่าเรา”
ไม่ใช่แค่ร่างกายหยุดโต แต่สุขภาพยังอ่อนแอลง ทำให้ตวันเหนื่อยง่าย ไม่สามารถเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมหนักๆ ได้ เล่นได้แค่ชั่วครู่ก็ต้องนั่งพัก ขณะที่คุณหมอแนะนำแม่เปิ้ลว่า ควรให้น้องได้รับการฉีดโกรทฮอร์โมน เพื่อช่วยการเจริญเติบโต
"หมอแนะนำให้โกรทฮอร์โมน แล้วตวันจะได้โตขึ้นเหมือนเด็กทั่วไป อนาคตจะได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติได้ แต่ถ้าสมมุติฮอร์โมนนี้ไปทำให้ก้อนเนื้อที่เหลืออยู่เพิ่มขนาดขึ้น อาจจะต้องมีการผ่าตัดครั้งที่ 3”
แต่ค่าใช้จ่ายในการฉีดโกรทฮอร์โมนค่อนข้างสูงมาก ประมาณ 2-3 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งหมอแนะนำให้ฉีดต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปี แม่เปิ้ลและสามีต้องพยายามทำงานหาเงินเพื่อจ่ายค่าบ้านและค่ารักษาลูก โดยสามีทำงานรับเหมาประกอบตู้ไฟให้โรงงานที่ต่างจังหวัด หลังงานประจำที่เคยทำปิดตัวลง ส่วนแม่เปิ้ลทำพริกแกงและน้ำพริกขายมาหลายปีแล้ว (พริกแกงเผ็ด พริกแกงเผ็ดขมิ้น พริกแกงส้ม พริกแกงต้มยำ น้ำพริกตาแดง และปลาร้าสับผัดสุก) แม่พยายามทำทุกทาง ทั้งขายผ่านออนไลน์ และทำส่งร้านค้าแถวบ้านใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อให้มีค่ารักษาลูก
"แม่ก็อาศัยขายพริกแกง หรือขอความช่วยเหลือตามไอจีดารา นักแสดง บางทีเขาก็ช่วยโปรโมทให้ ช่วยอุดหนุน จนมีผู้ใจบุญท่านช่วย แม่ก็ขอขอบคุณทุกท่านนะคะที่ช่วยเหลือตวันมาโดยตลอด ถ้ามีโอกาส แม่จะตอบแทนทุกๆ คน และสัญญาจะเลี้ยงตวันให้ดีที่สุดเท่าที่แม่คนหนึ่งจะทำได้”
ทุกวัน นอกจากหารายได้ด้วยการทำพริกแกงและน้ำพริกขายแล้ว แม่เปิ้ลต้องสวมบทพยาบาลจำเป็นด้วยการฉีดโกรทฮอร์โมนให้ลูกบริเวณท้อง หลังฉีดมาได้ประมาณ 2-3 เดือน ก็เริ่มเห็นผลในทางที่ดีขึ้น
“ตวันสูงขึ้น และอาการที่ตวันเหมือนจะน็อค เหมือนไม่มีแรงก่อนหน้านี้ ก็น้อยลงในช่วง 2-3 เดือนนี้ และเหมือนเขาใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ก่อนหน้านี้ บางทีถ้าเขาดูซีดๆ ไม่มีแรง แม่ต้องเจาะเลือดเขาเพื่อดูน้ำตาลว่าตกหรือเปล่า ถ้าตกต่ำกว่า 60 ก็เอาน้ำหวานให้กิน แล้วเจาะซ้ำ ถ้าน้ำตาลขึ้น แต่อาการไม่ดีขึ้น ก็ต้องพาไป รพ. เพื่อเจาะเลือดดูว่า โพแทสเซียมกับเกลือแร่ตกหรือเปล่า”
อดถามตวันไม่ได้ว่า ถ้าวันหนึ่งต้องผ่าตัดครั้งที่ 3 หนูพร้อมไหม?"พร้อมครับ “(ถาม-ต้องผ่าเปิดสมอง หนูไม่กลัวหรือ?) ตอนนี้หนูไม่กลัวแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่ควรจะทำ เนื้องอกมันควรจะหมดไปเสียที หนูไม่อยากให้สายตาแย่กว่านี้...”
14 ปีที่ตวันเกิดมาพร้อมปัญหาสุขภาพจากการถูกเนื้องอกในสมองกดทับเส้นประสาทตา และต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการรักษา แม้อนาคตคุณหมอยังไม่สามารถบอกได้ว่า กระบวนการรักษาจะเป็นอย่างไร และจะต้องผ่าตัดครั้งที่ 3 เพื่อเอาเนื้องอกออกอีกหรือไม่ ซึ่งต้องดูอาการปีต่อปีว่าเป็นอย่างไร แต่ไม่ว่าจะอย่างไร หัวใจแม่คนนี้พร้อมสู้เพื่อลูกต่อไป และจะดูแลลูกให้ดีที่สุดเท่าที่แม่คนหนึ่งจะทำได้
“สู้เพื่อลูก เมื่อเขาเกิดมาแล้ว เราก็ดูแลรักษาเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพื่อให้เขามีชีวิตที่ดี และอยู่กับสังคมได้”
หากท่านใดต้องการอุดหนุนพริกแกงและน้ำพริกของแม่เปิ้ลและน้องตวัน เพื่อให้น้องมีรายได้ไว้รักษาตัว ติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก “เจ้าของพริกแกงปลอดสาร น้องตวัน” หรือ โทร / Line 098-151-4962
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “สู้...เพื่อตวัน”
https://www.youtube.com/watch?v=tL2fFKzUlMo
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos