ธ.ก.ส.ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก สูงสุด 0.50 % ต่อปีและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.01 – 0.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาด มีผลตั้งแต่ 6 มิ.ย. 66 เป็นต้นไป
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า หลังจาก คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 %ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75 %ต่อปีมาอยู่ที่ 2.00% ต่อปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 และเพื่อให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของตลาด ธ.ก.ส. จึงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เงินฝาก 0.05 - 0.50 %ต่อปี เพื่อส่งเสริมการออมและเพิ่มผลตอบแทนให้สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนของธนาคาร พาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFIs)
ขณะเดียวกัน ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.10 – 0.25 %ต่อปี ประกอบด้วย อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายคนชั้นดี (MRR) จาก 6.875 %ปรับขึ้น 0.10% เป็น 6.975 %ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยลูกค้าสถาบันและนิติบุคคลชั้นดี(MLR) จาก 5.375 %ปรับขึ้น 0.250 % เป็น 5.625 %ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยประเภทเงินเบิกเกินบัญชี(MOR) จาก 6.750% ปรับขึ้น 0.125 % เป็น 6.875% ต่อปี โดยมีผล ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ได้จัดเตรียม มาตรการดูแล และแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และสนับสนุนการฟื้นตัวในช่วงภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้น ได้แก่ มาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ มาตรการฟื้นฟูอาชีพ มาตรการจ่ายดอกตัดต้น และมาตรการจ่ายต้นปรับงวด การให้คำปรึกษาด้านการจัดการหนี้ทั้งในและนอกระบบ การสนับสนุนให้ลูกค้าบริหารจัดการหนี้ผ่านแนวทางมีน้อยจ่ายน้อย มีมากจ่ายมาก
พร้อมสร้างแรงจูงใจโดยคืนหรือลดอัตราดอกเบี้ยให้กับผู้ที่ชำระหนี้ ควบคู่กับการเติมทุนผ่านสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายและการลงทุน เช่น สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย อัตราดอกเบี้ย 0.01 %สินเชื่อ SME เสริมแกร่ง และสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ อัตราดอกเบี้ย 4 %และสินเชื่อ Green Credit อัตราดอกเบี้ย MLR/MRR เป็นต้น