รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 22 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “กานต์” หนุ่มหัวใจนักสู้ ที่แม้โชคชะตาพาให้พิการเหลือแค่ครึ่งตัว ก็ไม่ยอมแพ้ สู้ทำงานหารายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว ทั้งยังเป็นตัวอย่างของคนพิการสู้ชีวิตที่สร้างแรงบันดาลใจให้อีกหลายชีวิตในโลกโซเชียลที่กำลังท้อแท้ได้ลุกขึ้นสู้เช่นเดียวกับเขา
สงกรานต์ มณีอ่อน หรือ "กานต์" หนุ่มชาว จ.สระบุรี วัย 36 ต้องสู้ชีวิตด้วยการทำงานหลายอย่างตั้งแต่เด็ก หลังสูญเสียพ่อจากอุบัติเหตุ
“ตอนประถม ประมาณ ป.5 พ่อก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เพราะว่าเขาไปทำงานก่อสร้าง แม่ก็ไปทำงานก่อสร้าง ซึ่งเป็นถนนหน้าหมู่บ้าน พ่อผมก็วิ่งข้ามไปหาแม่ ก็ไปถามว่าแม่กินข้าวหรือยัง แม่ก็บอกยังไม่ได้กิน พ่อก็วิ่งกลับมาเพื่อจะมาซื้อข้าวให้แม่ พอพ่อมาถึงกลางถนน มอไซค์มาเลนกลางก็ชนพ่อ ก็เสียชีวิตตรงนั้นเลย”
การสูญเสียพ่ออย่างกะทันหัน ทำให้กานต์ต้องออกจากการเรียนกลางคัน แล้วออกมาทำงานรับจ้าง แบ่งเบาภาระแม่ กระทั่งชีวิตมาพลิกผันหลังผ่านการเกณฑ์ทหาร กลับมาทำงานรับจ้าง ทั้งเป็นเด็กเสิร์ฟร้านอาหารและงานส่งน้ำ
"วันนั้น ผมขับมอไซค์ไปทำงาน เพื่อจะไปส่งน้ำดื่ม ในระหว่างทางที่เราจะไป เราเกิดอุบัติเหตุ คู่กรณีเป็นรถบรรทุก 18 ล้อ ผมขับรถมาทางตรง ฝั่งซ้ายจะมีปั๊มน้ำมันอยู่ ทีนี้เขาวิ่งมาฝั่งขวา เป็นเลนสวน ผมคิดว่าเขาจะจอดข้างทาง แต่เขาตีเข้าปั๊มน้ำมัน ฝั่งทางผม เลยชน ตอนที่ชน ผมไม่รู้ว่าขาขาด รู้อย่างเดียวว่าแน่นหน้าอก แต่ผมเห็นรองเท้า ผมคิดว่ารองเท้าหลุด ผมก็พยายามลุกขึ้นนั่ง จะไปหยิบรองเท้า แต่พอลุกขึ้นมา ขาเรากองอยู่ตรงนั้นข้างหนึ่งแล้ว แต่ข้างซ้ายนี่ไม่ได้ขาด แต่ผมใส่กางเกงยีนขายาว รถเขาเหยียบกางเกงอยู่หมิ่นๆ เขาเดินหน้าต่อ เลยซ้ำข้างซ้ายไปด้วย ขาเละตรงนั้นเลย"
เหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่เพียงทำให้กานต์ต้องสูญเสียขาทั้งสองข้าง แต่คนรักยังมาทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ ขณะที่กานต์เองก็ต้องรักษาตัวและเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตโดยไม่มีขาอีกต่อไป
"ตอนนั้นผมอยู่กับแม่และพี่สาว จิตใจตอนนั้นถือว่าแย่เลย เครียดเลย แม่จะคอยให้กำลังใจตลอด คอยปลอบใจเราทุกอย่าง แม่บอกว่า ถึงลูกจะพิการยังไง ก็คือลูกแม่ ถึงจะไม่มีขา ก็คือลูกแม่อยู่ดี เราเลยมีแรงฮึดสู้ อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น สักวันหนึ่งเราจะต้องมีอาชีพ เพื่อกลับมาเลี้ยงดูแม่ให้ได้”
ในที่สุด กานต์ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการกลับมาทำงานช่วยเหลือครอบครัวอีกครั้ง โดยรับจ้างขายขนมหวาน ทำงานไป เก็บเงินไป ก่อนจะตัดสินใจมีอาชีพของตัวเอง
"ผมเจอคำดูถูกมาเยอะมาก พิการ ทำไมไม่เป็นขอทาน ทำไมมาทำแบบนี้ ขอทานง่ายกว่า ผมจะทำให้เขาเห็นว่า คนพิการไม่จำเป็นต้องเป็นขอทานเสมอไป คนพิการอย่างน้อยมีใจ มีมือ มีสติ เรามีอาชีพของตัวเองได้”
“เราอยากจะสู้ด้วยตัวเอง แค่มือ ยังไหวอยู่ ความสู้ชีวิต ไม่จำเป็นต้องใช้ขา เราแค่มีมือ และมีสติ ใช้สติของเรานำปัญญา ผมบอกแม่ว่า อยากมีอาชีพของตัวเอง แม่ก็ถามว่าจะทำอะไร ผมบอกอยากขายลูกชิ้น แม่บอกว่า เขาไม่มีสมบัติอะไรให้ มีแค่ถังแก๊สใบเดียว ผมก็เอาถังแก๊สใบนั้น เป็นแรงผลักดันให้ผมมีไฟสู้ทำมาหากินทุกวันนี้ จนเป็นกานต์ลูกชิ้นทอด”
แม้ไร้ขา แต่กานต์สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยร่างกายเพียงครึ่งตัว ขึ้น-ลงรถมอเตอร์ไซค์ได้อย่างคล่องแคล่ว ยกถังแก๊สได้ นอกจากนี้เขายังมีความสามารถในการเชื่อมเหล็ก ดัดแปลงอุปกรณ์และรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง เพื่อให้เอื้อต่อการขับขี่ รวมทั้งมีอุปกรณ์ขาเทียมที่ได้รับพระราชทาน ไว้ใส่พยุงตัวเวลาขี่มอเตอร์ไซค์ไปขายลูกชิ้นทอด ช่วยให้เขาไม่ตกจากรถเวลาเลี้ยว แต่ขาเทียมดังกล่าวไม่สามารถใส่เพื่อเดินได้ เพราะไม่เหลือขาจริงที่จะประคองขาเทียมให้เดินได้
ในความโชคร้ายที่ต้องพิการและคนรักทิ้งไป ยังมีความโชคดีที่มีหญิงที่รักกานต์อย่างจริงใจ "โสภา บุญส่งอำนาจ" ผู้ไม่หวั่นไหวต่อความพิการ ตัดสินใจมาใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกับกานต์มาเกือบสิบปีแล้ว
หลังโควิด-19 ส่งผลให้การค้าขายยากลำบาก กานต์และภรรยาได้ตัดสินใจย้ายจากสระบุรีไปทำมาหากินที่ จ.ราชบุรี แทน
"สระบุรีรถ 10 ล้อเยอะ อันตราย ที่ราชบุรีร่มรื่น มีแต่สวน ผมว่าบรรยากาศมันดี และการหากินมันง่ายกว่า ก็มาเช่าห้องอยู่ที่นี่”
เมื่อโควิดเริ่มคลี่คลาย การค้าขายของกานต์ก็เริ่มดีขึ้น ขณะที่ภรรยาก็ทำงานประจำเป็นแม่บ้านที่โรงเรียน ช่วยสามีหารายได้อีกทาง กานต์พยายามเก็บหอมรอมริบ โดยฝันอยากมีบ้านของตัวเอง เพื่อที่วันหนึ่งถ้าทำงานไม่ไหว จะได้ไม่ลำบากเรื่องค่าเช่าห้อง
กานต์เป็นคนที่รักแม่มาก แม้แม่จะจากไปได้ 3 ปีแล้ว แต่กานต์อยากบอกแม่ว่า แม่ไม่ต้องห่วง ลูกยังไหว และเอาตัวรอดได้
“อยากให้แม่รู้ว่า ที่ผมมีวันนี้ได้ ไม่ใช่เพราะตัวผมเก่งเลย แต่เพราะกำลังใจที่แม่ให้ผมในระหว่างที่ผมรักษาตัว กำลังใจที่แม่ให้ผมทำมาหากิน ถังแก๊สที่แม่ให้มา กำลังใจของแม่อยู่ข้างกายผมตลอด เวลาผมเหนื่อย ผมจะเปิดโทรศัพท์ หน้าจอโทรศัพท์จะเป็นรูปแม่ผม อยากให้แม่รับรู้ว่า ไม่ต้องห่วงผม ผมเอาตัวรอดได้ ผมยังไหวอยู่ ผมยังมีแรงสู้อยู่ ไม่ยอมแพ้อยู่แล้วอุปสรรค”
ปัจจุบัน "กานต์" ไม่เพียงเป็นตัวอย่างของคนพิการที่สู้ชีวิตด้วยการมุมานะทำงานหารายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว แต่เขายังเป็นแรงบันดาลใจให้อีกหลายชีวิตในโลกโซเชียลที่กำลังท้อแท้ สิ้นหวัง ได้ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง
“ผมทำคลิปลงติ๊กต็อกครั้งแรกเลย คือ โควิดของขายเงียบ อยากให้ลูกค้าเห็นว่า มีพ่อค้าลูกชิ้นอยู่ตรงนี้คนหนึ่ง ผมเลยทำคลิปลงไป พอลงได้คืนหนึ่ง วันรุ่งขึ้น ผมคิดว่าโทรศัพท์พัง หน้าจอมันติดไม่ดับเลย มันเด้งตั้งแต่ผมลงยันเช้าข้ามคืนเลย จนผู้ติดตามไหลเข้ามาเยอะ เราไม่รู้ว่า เราไปจุดประกายเขายังไง เราก็ไปอ่านคอมเม้นท์ เขาบอก ขอบคุณมากเลยที่ให้กำลังใจ เราก็รู้แล้ว อ๋อ ความพิการเราให้กำลังใจคนที่เขาท้อ ให้เขาสู้ชีวิต ผมเลยทำคลิปเสมอมา ให้กำลังใจคนที่ท้อแท้ให้สู้ชีวิต ด้วยสภาพร่างกายของเรา ให้เอาร่างกายของผมเป็นวิทยาทานในการใช้ชีวิต ในการดำรงชีวิตของทุกครอบครัว”
"กานต์" ยังฝากถึงคนที่กำลังท้อแท้ด้วยว่า"เกิดมาเป็นคนทั้งที ต้องสู้ อย่าหนีปัญหา ทุกปัญหามีไว้ให้เราแก้ไข อย่าตัดสินปัญหาด้วยการคิดสั้น”
หากท่านใดต้องการอุดหนุนลูกชิ้นทอดของกานต์ สามารถติดต่อได้ที่ TikTok kran733 หรือเฟซบุ๊ก สงกรานต์ มณีอ่อน หรือโทร 089-081-9089
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “กานต์...ครึ่งตัวก็สู้”
https://www.youtube.com/watch?v=cFlaeQq4m3g&t=8s
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos