xs
xsm
sm
md
lg

“ครูส้ม” ไม่เลือกทำงานในโรงเรียนเอกชน ขอดูแลเด็กในชุมชนแออัด ให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 8 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “ครูส้ม” ครูที่ห่วงใยคุณภาพชีวิตและอนาคตของเด็กๆ ในชุมชนแออัด ที่อาจเป็นปัญหาในอนาคต หากไม่ได้รับการดูแลที่ดี เนื่องจากพ่อแม่ต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเวลาดูแลลูก ครูจึงตัดสินใจหยุดชีวิตครูโรงเรียนเอกชน แล้วหันมาอุทิศตนดูแลเด็กๆ ในชุมชนแออัดแทน



ด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้าที่อยากทำงานเพื่อเด็ก ประกอบกับเห็นใจผู้ปกครองที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัด ชุมชนทรัพย์สินเก่า ย่านรามคำแหง 39 ที่หลายครอบครัวหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเวลาดูแลลูก และไม่มีเงินมากพอที่จะพาลูกไปฝากเลี้ยงตามศูนย์รับเลี้ยงเด็กทั่วไปที่ราคาแพง "ครูส้ม" คณิตา โสมภีร์ จึงตัดสินใจหยุดชีวิตครูโรงเรียนเอกชน หันมาเปิดบ้านที่ครูเช่าอยู่ในชุมชนแห่งนี้ เพื่อดูแลเด็กตั้งแต่วัย 2 เดือนถึง 3 ขวบ


"เพราะในชุมชนยังไม่มีใครทำบ้านแรกรับ คือรับตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งถึง 3 ปี เลยลองทำดู เพราะอยากให้ตัวเองได้ทำงานกับเด็กจริงๆ และอีกอย่างคือ ลูกตัวเองคนเล็กป่วย เป็นเด็กที่หัวใจรั่ว เลยคิดว่า น่าจะมาทำตรงนี้ เขาจะได้มีเพื่อน และสามีก็สนับสนุนว่า อยากให้ทำ ก็เลยเปิด"


ปัจจุบันมีเด็กในความดูแลของบ้านครูส้ม 15 คน เหตุที่ผู้ปกครองให้ความไว้วางใจพาบุตรหลานมาให้ครูส้มเลี้ยง เพราะครูผ่านการอบรมและได้รับการรับรองด้านดูแลเด็กมาแล้ว อีกทั้งบ้านครูส้มยังถือว่า เป็นบ้านร่วมพัฒนาเด็กของมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม จึงได้รับการยอมรับจากชุมชนเป็นอย่างดี โดยครูส้มจะมีผู้ช่วยดูแลเด็กเป็นคุณยายอีกหนึ่งคน รวมถึงลูกชายตนเองวัย 18 ที่เติบโตมาพร้อมกับเด็กๆ ที่ครูเคยเลี้ยง ช่วยดูแลอีกแรง


ทุกเช้า ผู้ปกครองจะพาบุตรหลานมาส่งที่บ้านครูส้ม และมารับกลับในช่วงเย็น ครูไม่เพียงดูแลเรื่องกินอยู่-หลับนอน แต่ยังมีกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อฝึกทักษะและพัฒนาการของเด็กๆ ให้สมวัย รวมทั้งพาไปทัศนศึกษาหรือร่วมกิจกรรมนอกสถานที่ในบางครั้ง


ฝึกเด็กให้มีวินัย อยู่แบบพี่น้อง รู้จักแบ่งปัน!!

"เราฝึกเด็กให้ดูแลตัวเองด้วย เดินต้องระวัง ตาต้องมองเท้านะ ของเล่น เล่นเสร็จแล้วต้องเก็บนะ ...พี่ต้องดูแลน้อง เราสอนเขาด้วยว่า ต้องมีการแบ่งปัน มีการยอมรับตัวเองและยอมรับคนอื่น และมีการฝึกวินัย พี่ต้องรู้จักให้น้อง เมื่อเราฝึกเด็กได้ในระดับหนึ่ง พอเขาไปเข้าโรงเรียน จะไม่มีปัญหา"


นอกจากนี้ ครูส้มยังดูแลเรื่องสุขภาพอนามัยของเด็กๆ เพื่อให้เจริญเติบโตสมวัย หากเด็กเจ็บไข้ได้ป่วย ครูพร้อมช่วยพาไปหาหมอ เพราะครูมีประวัติของเด็กๆ ทุกคน

"เราดูแลเกี่ยวกับโภชนาการตามวัย คนนี้น้ำหนักน้อย บางทีต้องพาไปหาหมอ ดูซิว่าเป็นอะไรไหมหรือเป็นกรรมพันธุ์ ส่วนคนนี้อ้วนเกินไป เราก็ดูแลว่า มีปัญหาไหม มีคุณหมอมาตรวจด้วยนะคะที่นี่ จะมีจากคลินิคศูนย์แพทย์พัฒนา ที่เขาลงชุมชนมาให้ เขาจะมาตรวจให้ และครูเองก็ประเมินเด็กด้วยในนแต่ละวัน การเรียนรู้เขาได้ตามวัยของเขาไหม บางทีก็เหนื่อยนะ เพราะมีหลายเรื่อง อาจมีเรื่องยุ่งยากเกี่ยวกับเรื่องเอกสาร แต่เราก็ทำ ในฐานะที่เราเป็นครูแล้ว เราก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด"


ขณะที่คุณแม่คนหนึ่งที่นำลูกมาให้ครูส้มเลี้ยงได้ปีกว่า ยอมรับว่า ถ้าไม่ได้นำลูกมาให้ครูส้มเลี้ยง ตนเองคงไม่สามารถไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้

"ตอนนี้พัฒนาการน้องดีมากเลย ครูสอนดี ตั้งแต่เก็บของ วาดรูป ระบายสี ดีทุกอย่างเลย รู้สึกว่าคิดถูกที่เอาลูกมาให้ครูเลี้ยง ครูส้มเหมือนบ้านหลังที่สองของน้อง ถ้าไม่ได้ครูส้ม แม่ก็ไม่สามารถไปทำงานที่อื่นได้ ครูส้มจะมีกิจกรรมสำหรับเด็ก ...อย่างน้องป่วยไม่สบาย ครูส้มพาไปหาหมอเองเลย"


แม้การรับเลี้ยงเด็กแต่ละคนจะมีค่าใช้จ่าย และครูส้มเองก็ไม่ได้มีฐานะ แต่ด้วยความเห็นใจผู้ปกครองที่บางครอบครัวรายได้ไม่มาก ครูจึงแล้วแต่ผู้ปกครองจะสะดวก หากผู้ปกครองคนใดไม่มี ครูส้มก็ยินดีเลี้ยงดูลูกให้ฟรี เพราะครูเข้าใจดีว่า การไม่มีเป็นอย่างไร


"แล้วแต่ผู้ปกครองมี บางคนบอกครู มีพันหนึ่ง ก็ให้เดือนละพันหนึ่ง บางคนบอกมี 1.5 พัน ...บางคนไม่มีเลย ครูก็เลี้ยงให้ฟรี ก็มีเหมือนกัน เราไม่ได้คิดว่า เราต้องเลี้ยงเด็กที่พ่อแม่มีเงินเท่านั้น และที่่เราเลี้ยงให้ฟรี ไม่ใช่เพราะเรามีนะ แต่เราให้ เพราะเราเคยไม่มีมาก่อน"


หลายครั้งที่ครูส้มต้องแบกค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็กๆ จนบางเดือน สามีต้องยื่นมือเข้าช่วยประคับประคอง ซึ่งสามีก็เต็มใจ ทั้งยังแบ่งเวลาช่วงพักกลางวันจากการทำงาน กลับมากินข้าวที่บ้าน พร้อมช่วยภรรยาดูแลเด็กๆ อีกด้วย


“(ถาม-ในฐานะที่เราเป็นผู้ชาย กลับบ้านมาอยากพักผ่อน เคยมีความรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวไหม?) ไม่มี ผมชอบด้วย ตื่นเช้ามา ผมก็ช่วยทำงานบ้าน ต้มน้ำ เปิดบ้านให้ครูส้ม กลางวันผมมา ก็มาช่วยดู กินข้าวก็มาดูเด็ก แต่ตอนเย็นผมจะกลับมาไม่ทันดู เพราะผมเลิกงานทุ่มหนึ่ง”


การอุทิศตนเพื่อเด็กๆ ของครูส้ม ทำให้บางครั้งมีผู้ที่เห็นถึงความตั้งใจ และส่งหนังสือมาให้ครูขาย เพื่อนำรายได้มาดูแลเด็กๆ อีกทาง ขณะที่บางคนติดต่อขอเข้ามาเลี้ยงอาหารเด็กๆ ที่บ้านครูส้มในบางครั้ง

ครูส้มไม่เพียงเป็นครูของเด็กๆ แต่ยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นครูจิตอาสา และเป็นครูใหญ่สอนผู้สูงอายุ 11 ชุมชนอีกด้วย


คุณยายสมจิตร ซึ่งอยู่ข้างบ้านครูส้ม อดชื่นชมครูส้มไม่ได้ ที่ใส่ใจดูแลทั้งเด็กและผู้สูงอายุในชุมชนแห่งนี้

“เวลาครูได้อะไรมา แกก็จะมาแบ่งปันอยู่ตลอด เขาแจกข้าวสุกข้าวสารอะไร แกก็แนะนำให้มาแจกบ้านยาย แกไม่เคยทิ้ง ใครเจ็บใครป่วยใครเป็นโควิด แกวิ่งขอให้เขามาช่วยคนที่เป็น ทั้งๆ ที่แกเอาของออกไปให้เขา แกเสี่ยงนะ แต่แกก็ทำ แกดีมาก ไม่ใช่ญาติไม่ใช่พี่น้อง ญาติพี่น้องยังไม่เคยมาดูยายอย่างนี้เลยนะ”


19 ปีแล้วที่ครูส้มเปิดบ้านเช่ารับเลี้ยงดูแลเด็กในชุมชนแออัดแห่งนี้ เพื่อแบ่งเบาภาระผู้ปกครองที่ต้องทำงาน ไม่มีเวลาดูแลลูก ครูส้มได้เลี้ยงเด็กมารุ่นแล้วรุ่นเล่า ซึ่งเด็กๆ ไม่เพียงมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ยังไปได้ดิบได้ดี ได้เข้าโรงเรียนดีๆ และเดินตามฝันของตัวเองแล้วหลายคน แต่...ใครจะคิดว่า บ้านครูส้มอาจต้องปิดฉากลงในอีกไม่นานนี้

“ถ้าเด็กไม่มีใครดูแล คนในประเทศเราต้องดูแล เพราะเขาคือทรัพยากรที่มีค่าต่อไปในอนาคต ถ้าคุณไม่ดูแลตั้งแต่เด็ก แล้วคุณจะไปเอาเด็กที่ดี ที่มีคุณภาพหรือเป็นคนที่ดี มาพัฒนาประเทศ คุณหาไม่ได้หรอก แต่ถ้าคุณดูแลตั้งแต่แรกเกิด คุณจะได้ต้นไม้ที่สวยงามไปในอนาคต”


“เพราะว่าตัวสถานที่นี้ มันไม่ใช่บ้านครู ตอนนี้ครูเช่าอยู่ แต่ต่อไป เดี๋ยวเขาต้องรื้อแล้ว รื้อแล้วกลับคืนไปเป็นของทรัพย์สิน ครูกำลังคิดว่า เด็กพวกนี้จะไม่มีที่อยู่แล้ว เพราะครูอาจจะต้องเลิกภายในไม่เกิน 2 ปีนี้ เพราะไม่มีพื้นที่ให้เขาอยู่แล้ว ครูก็ไม่รู้ว่าจะไปหาพื้นที่ตรงไหนที่จะทำได้ เพราะในชุมชนมีพื้นที่แค่นี้”

ครูส้มยังสะท้อนความรู้สึกด้วยว่า อยากให้ทุกชุมชนมีพื้นที่สำหรับเด็ก เพราะถ้าไม่มีพื้นที่ที่ปลอดภัยให้เด็ก เราจะได้พ่อแม่ที่ทิ้งเด็ก หรืออาจไม่อยากดูแลเด็ก หรือได้ผู้ปกครองที่ไม่มีคุณภาพ หรือเด็กที่ไม่มีคุณภาพต่อไป


“บางคนชอบมองว่าเด็กคือภาระ ครูกำลังมองว่า ทุกคนที่มีบ้านอย่ามองว่าเด็กเป็นภาระ แต่เขาคือของขวัญที่สามารถที่จะเป็นคนที่พัฒนาประเทศได้ในอนาคต”


หากท่านใดต้องการให้กำลังใจ หรือติดต่อครูส้ม โทรไปได้ที่ 080-257-4792 หรือหากต้องการส่งสิ่งของเพื่อสนับสนุนการดูแลเด็ก ส่งไปได้ที่ คณิตา โสมภีร์ (ครูส้ม) 356/4 ชุมชนทรัพย์สินเก่า ถนนรามคำแหง 39 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน "ครูส้ม...ของหนู"

https://www.youtube.com/watch?v=_8A1G5T1ic8


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


กำลังโหลดความคิดเห็น