รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 1 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “อิงค์ฟ้า” คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสู้ชีวิต ทำขนมเบเกอรี่ขายออนไลน์เลี้ยงลูกป่วยพิการสมองฝ่อ โชคดียังมีลูกที่ปกติช่วยแม่ทำงานหารายได้อีกทาง
หลังจากมีอันต้องเลิกรากับสามี “อิงค์ฟ้า แก้วศรี” ต้องสวมบทแม่เลี้ยงเดี่ยวเป็นเสาหลักเลี้ยงดูลูกชาย 2 คนมานาน 7 ปีแล้ว โดยเช่าทาวน์เฮาส์อยู่ที่หมู่บ้านเฟื่องฟ้า โครงการ 15 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเธอไม่สามารถออกไปทำงานนอกบ้านได้ เพราะการป่วยของลูกคนโต ต้องดูแลตลอดเวลา
“มีลูก 2 คน คนเล็กตอนนี้ทำงานแล้ว ขับแกร็บ คนโตชื่อ น้องบรู๊ค ปีนี้อายุ 22 น้องเป็นโรคลมชักและสมองฝ่อ ตั้งแต่อายุ 3 เดือน ตอนแรกอาการไม่ได้ออกถึงขั้นชักเกร็ง มาแค่กระตุก ยักไหล่ขึ้น ต้องสังเกตแบบใกล้ชิด เขาจะยักไหล่ประมาณ 50-100 ครั้งต่อวัน เคยถามหมอแล้ว หมอบอก 1 ในล้านที่จะเป็นเองโดยไม่มีสาเหตุ การดูแลเขาก็เหมือนอยู่กับเขา 24 ชม.”
ด้าน “ปณิธาน สุขใจ” หรือบั๊มพ์ ลูกชายคนเล็ก วัย 21 ซึ่งร่างกายปกติดี ยอมรับว่า พ่อเคยทำงานหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว พอไม่มีพ่อ ความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก
“ตอนนั้นพ่อทำงานหาเลี้ยงที่บ้านคนเดียว ตอนนั้นผมไม่ได้สนใจอะไรเลย เงินก็ขอแค่ไปโรงเรียน แต่ไม่เคยขอใช้โน่นนี่มากมาย ก็รู้เขาหาเงินแบบไม่ค่อยพอ ตอนพ่อไป ความเป็นอยู่ของครอบครัวก็ลำบาก แม่ก็หาเงินได้แค่จุดที่เขาจะหาได้ เพราะเขาออกไปทำงานไม่ได้ บางวันไปเรียน ก็ได้เงินไปแบบไม่พอกินพอใช้”
จากคนเคยทำหน้าที่แม่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเดียว เมื่อไร้สามี อิงค์ฟ้า ยอมรับว่าเครียดกับการหางานทำเพื่อให้มีรายได้มาดูแลลูกๆ
“ตอนแรกเครียดอยู่ประมาณช่วงเดือนแรก คิดว่าจะทำมาหากินอะไรเลี้ยงลูก พอดีเป็นคนชอบทำขนม อยากหัดทำมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาส จนพ่อเขาไปนั่นแหละ เราก็เริ่มฝึก อยากทำอะไรก็ดูยูทูบ สูตรขนมก็ดูจากยูทูบทั้งนั้นเลย สูตรขนมก็เริ่มมาเป็นคุ้กกี้ และชิฟฟ่อน ค่อยๆ ฝึกมาเรื่อยๆ (ถาม-แล้วเอาทุนปัจจัยจากไหน?) ตอนนั้นมีพี่ๆ ในโซเชียลช่วยเข้ามา เขารู้จักเราจากเฟซบุ๊ก เขาเห็นน้องมาตั้งแต่อายุ 13 เราเริ่มเล่นเฟซบุ๊กตอนน้องอายุ 12-13 โพสต์มาเรื่อยๆ อย่างคนเขาเอ็นดูน้อง เขาก็คอยช่วย”
เมื่อแม่ต้องเป็นเสาหลักทำงานหาเงินเพียงคนเดียว ในที่สุด กำลังที่จะหาเงิน ก็ไม่เพียงพอที่จะส่งลูกชายคนเล็กเรียนต่อได้ จำต้องให้ลูกหยุดการเรียนไว้แค่ ม.2 หลังออกจากการเรียน “บั๊มพ์” ได้หางานทำ เพื่อช่วยแม่หาเงินในวัยแค่เพียง 14
“ตอนแรกผมทำงานเป็นผู้ช่วยผู้รับเหมา ทำได้ประมาณ 1 ปี แล้วเงินมันไม่พอ เงินเอาไปกินตอนทำงาน และมาหักล้างกับเงินที่ได้ เพราะได้เป็นรายวัน ได้อยู่ประมาณวันละ 300 และผมทำล่าสุดนี่คือ ทำงานส่งแล็บเลือด ได้ปีกว่าๆ และออกมา เพราะเราเริ่มรู้แล้วว่า เราถูกฟิกซ์เรื่องการหยุดงาน เพราะเราต้องหยุดงานมาช่วยที่บ้านเวลาไปหาหมอ เลยมาทำงานอิสระดีกว่า พวกงานแอปพลิเคชั่น ส่งคน ส่งของ จะไม่ถูกฟิกซ์เรื่องการหยุด มันอิสระตามตัวเราเลย”
ขณะที่ผู้เป็นแม่ แต่ละวันต้องจัดเวลาทำงานและเวลาพักผ่อนนอนหลับให้สัมพันธ์กับการดูแลลูกคนโตที่ป่วย การใช้ชีวิตจึงแตกต่างจากคนทั่วไปมานานนับสิบปีแล้ว
“แม่จะนอนไม่เหมือนคนปกตินะ เราจะใช้ชีวิตกลางคืน กลางวันเรานอน อยู่อย่างนี้มาประมาณ 10 ปีแล้ว สมมุติถ้าน้องนอน 5 โมงเช้า จะตื่นประมาณ 4 ทุ่ม ส่วนแม่ ถ้านอนพร้อมน้อง 5 โมงเช้า ก็จะตื่นประมาณบ่ายสาม จากนั้นเราก็เริ่มเตรียมอุปกรณ์เตรียมของสำหรับน้องก่อน คือชงนม ระหว่างเขาหลับ เราก็ให้นมได้ ช่วงของเขาเป็น ช่วงเช้า 9 โมง บ่าย สอง อีกรอบหนึ่งก็ประมาณ 6 โมงเย็น และ 4 ทุ่ม เวลากินนม ช่วงหลับเราจะทำขนม ทำงานบ้านให้เสร็จเรียบร้อย ถ้าเขาตื่นแล้ว เราต้องเริ่มดูดเสมหะ ทำแผล น้องชายเขาก็จะช่วยแม่อุ้มมาอาบน้ำ (ถาม-ช่วงที่ใช้พลังงานเยอะสุดๆ คือช่วงไหน?) อุ้มน้อง ตอนนี้น้องหนัก 44 กก.”
“ตอนนี้ก็ยังมีอาการชักอยู่ วันละ 5-10 ครั้งต่อวัน ช่วงชัก เราต้องนวดเขา หรือพยายามเรียกเขาให้รู้ตัวไวๆ เพื่อคลายอาการชัก (ถาม-มีรับยากันชักไหม?) มี น้องทานประมาณ 5-6 ตัว หมอบอกว่าน้องอยู่ในกลุ่มที่รักษายาก และน้องมีชักหลายอย่าง มีชักเกร็ง ชักกระตุก ถ้าน้องชักบ่อยหรือชักมาก ก็มีผลต่อสมองเขา จะขาดออกซิเจน ยิ่งเขาชักเยอะ พัฒนาการมันจะถอย ด้อยลง”
ด้วยข้อจำกัดที่ไม่สามารถไปทำงานนอกบ้านได้ เพราะต้องดูแลลูกป่วย เมื่อตัดสินใจทำขนมขาย “อิงค์ฟ้า” จึงขายผ่านออนไลน์ เพราะเป็นช่องทางที่สะดวกที่สุด แต่ก็ยอมรับว่า รายได้ค่อนข้างไม่แน่นอน
“รายได้มันไม่แน่นอน มันเป็นช่วงๆ ไป บางทีเราโพสต์ไป มันเงียบ เหมือนเฟซบุ๊กปิดกั้นหรือยังไง คนมองไม่เห็น เราต้องคิดแล้วว่า รายจ่ายสิ้นเดือนนี้ เราจะหาจากไหน เหมือนเรา เราก็จะคุยกับคนเล็ก บางทีเราก็บอกว่า เดือนนี้แม่หาไม่ทัน หนูช่วยแม่หาหน่อยนะ ทุกทีเราจะโพสต์อย่างเดียว ถ้ามันเงียบ เราก็เริ่มไลฟ์ขายขนมด้วย หรือบางทีเราอาจจะโพสต์ อย่างน้องไปหาหมอ เราจะโพสต์ว่า เดี๋ยวน้องต้องไปหาหมอ ช่วยอุดหนุนขนมน้องบรู๊ค ก็จะมีคนเห็น เขาก็ช่วยอุดหนุนเข้ามา ส่วนมากจะได้เดือนชนเดือน ส่วนมากไม่พอหรอก เดือนชนเดือน มีช่วงปีที่แล้ว เปิดร้านกระเพราในไลน์แมน ขายอยู่พักหนึ่ง มาป่วย เลยหยุดยาวเลย พอสถานการณ์คลี่คลายจากโควิด ก็มาทำเบเกอรี่ขายตามปกติ”
“(ถาม-เคยคิดไปทำงานนอกบ้านหรือเป็นพนักงานรับจ้างอย่างอื่นไหม?) เคยคิดอยู่ แต่เราคิดว่ารายได้คงไม่พอกับรายจ่าย เพราะรายจ่ายสำหรับน้องเยอะ ทั้งค่ายา แพมเพิส นม และอุปกรณ์เสริมต่างๆ (ถาม-ถ้าเราไปทำงานข้างนอก น้องต้องมีคนดูแลอยู่ด้วยตลอดไหม?) ต้องมีคนดูแลตลอด เราละตรงนั้นไม่ได้ด้วย เราทิ้งน้องไม่ได้ด้วย เลยไม่สามารถไปทำงานได้”
ขณะที่ “บั๊มพ์” ลูกชายคนเล็ก แม้จะเคยหยุดการเรียนไว้แค่ ม.2 เพราะฐานะครอบครัวไม่เอื้อให้เรียนต่อ แต่เมื่อถึงวันที่ตนเองสามารถทำงานหารายได้ จึงไม่รีรอที่จะหาโอกาสเรียนต่ออีกครั้ง
“พอเริ่มทำงานแล้ว นึกย้อนไปเสียดาย ถ้าเราเรียนต่อ เราอาจจะได้เรียนในสายอาชีพที่เราต้องการนำมาใช้ในการทำงาน ตอนนี้ผมเรียน กศน.อยู่ รอได้วุฒิ ม.6 จะไปต่อ ปวส.ในสายที่อยากเรียน”
นอกจากเรื่องเรียนแล้ว “บั๊มพ์” ยังอยากให้แม่สบาย ไม่ต้องเหนื่อยกับการทำงาน อยากทำงานหาเงินแทนแม่
“อยากให้เขาสบาย อยากจะทำให้เขาไม่ต้องหาเงินเหนื่อย ผมจะคิดอยู่ทุกวันว่า ผมอยากให้คนที่บ้านสบายด้วยตัวผม ไม่อยากให้เขาเหนื่อยหรือท้อ เราเหนื่อยได้ เราหาเงินได้ ถ้าเกิดวันหนึ่งเราหาเงินได้โดยที่เขาไม่ต้องหาเงิน มันก็เป็นความสุขของเราอย่างหนึ่ง”
“ผมคิดอยู่ตลอด ทุกวันนี้ผมก็ยังนอนคิดอยู่ว่า ถ้าวันหนึ่งไม่มีแม่อยู่ เกิดแม่เป็นอะไรไป บางทีผมยังคิดสั้นๆ เลยนะว่า ตายตามกันไปหมดเลยอะไรอย่างนี้ แต่บางทีเราก็มาคิดว่า ถ้าเกิดแม่ไม่อยู่วันหนึ่ง เราก็ต้องดูแลพี่ไป ดูแลตามศักยภาพที่เรามี ดูแลเขาให้เต็มที่ที่สุด มันอาจจะเหนื่อย ถ้าเราเป็นเสาเหลักคนเดียว แต่ถึงวันนั้นก็ต้องทำเท่าที่ทำได้ ก็ต้องดูแลกันไป”
ขณะที่หัวใจแม่อย่าง “อิงค์ฟ้า” ยืนยันว่า แม้ลูกจะป่วย แต่ก็อยากให้ลูกอยู่กับแม่ไปเรื่อยๆ แม้แม่จะเคยท้อบ้าง แต่แค่ได้เห็นรอยยิ้มลูก ก็มีกำลังใจที่จะเดินต่อแล้ว
“อยากให้อยู่ไปจนแก่เลยก็ได้ อยู่กับเราไปเรื่อยๆ สำหรับแม่ เราเลี้ยงเขาด้วยความรัก เหมือนถ้าไม่มีเขา เราก็อยู่ไม่ได้ (ถาม-วันที่เราทำงานไปด้วย เลี้ยงน้องไปด้วย ย่อมมีเหนื่อยมีท้อ สำหรับแม่เป็นยังไงบ้าง?) เหนื่อยนะ แต่เหนื่อยสำหรับเขา มันมีความสุขมากกว่า ถึงบางครั้งเราจะท้อ บางวันเราจะร้องไห้ แต่มีเขาให้กำลังใจเรามากกว่า แค่เราเห็นรอยยิ้มเขา เราก็มีกำลังใจที่จะเดินต่อแล้ว”
หากท่านใดต้องการอุดหนุนขนมเบเกอรี่ของ อิงค์ฟ้า ติดต่อไปได้ที่เพจเฟซบุ๊ก น้องบรู๊ค วรกานต์ แก้วศรี หรือโทร 061-953-2236 หรือต้องการบริจาคช่วยเหลือค่าอุปกรณ์ดูแลน้องบรู๊ค สามารถโอนเงินไปได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี น.ส.อิงค์ฟ้า แก้วศรี เลขบัญชี 863-2-308583
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “สู้ไปด้วยกัน”
https://www.youtube.com/watch?v=0-qI8wsxfNs
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos