รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “ติ๊ก” แม่เลี้ยงเดี่ยวที่สู้เพื่อลูกที่ป่วยติดเตียงแต่กำเนิด ทั้งยังเป็นเสาหลักเลี้ยงแม่ ยึดอาชีพทำขนมไทยใส่บาตรออนไลน์ขายเลี้ยงครอบครัว แม้ลูกพิการ ขอทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด
“ติ๊ก” สุพรรณี เหล่ากลาง ใช้ชีวิตอยู่กับแม่และ “วาสนา” ลูกสาวป่วยติดเตียงวัย 4 ขวบกว่า ที่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ติ๊กไม่เพียงเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่ยังเป็นเสาหลักของบ้านหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว 3 ชีวิต
“ลูกสาวผิดปกติตั้งแต่เกิดเลย ความผิดพลาดของเราที่เราไม่ได้ฝากท้อง แต่เกิดมาแล้ว เราจะทำยังไง ตอนตั้งท้องไม่ได้ฝากครรภ์ เพราะเราทำงาน เราทำงานอยู่ภูเก็ต (ถาม-แล้วมาทราบตอนที่คลอดหรือ?) มาทราบตอนที่มาอยู่บ้าน มาบ้าน แต่ก็ไม่ได้ไปฝากท้อง จนแบบทรุดโทรม แม่บอกไปหาหมอเถอะ มันผิดปกติ พอไปก็แอดมิดเลย 8 เดือน (ถาม-ตอนนั้นหมอบอกไหมว่าทำไมเด็กผิดปกติ?) ผิดปกติเพราะเราไม่ได้บำรุง ไม่ได้ฝากท้อง พอคลอดออกมา หมอบอกว่า น้องจะศีรษะโตนะ น้ำในสมองเยอะ ตามองไม่เห็น พูดไม่ได้ ติดเตียง”
แม้ลูกป่วย แต่แม่ติ๊กไม่พร้อมให้ลูกผ่าตัด เพราะกลัวลูกจะอยู่ได้ไม่นาน จึงขอเลี้ยงลูกเอง ขอทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด
“หมอก็แนะนำว่า ต้องเจาะหน้าท้องนะ เจาะคอนะ ผ่าตัดหัวนะ แต่แม่จะไม่เซ็นเอกสารอะไรทั้งสิ้น แม่บอกว่า ขอไปเลี้ยงเอง จะไม่ให้น้องเจ็บ (ถาม-ทำไมเราไม่เลือกฟังหมอ?) เพราะทุกเคสที่เป็นเหมือนน้อง มีแต่เจาะแล้วก็ติดเชื้อ และอยู่กับเราได้ไม่นาน แต่หมอประจำตัวน้องบอกว่า วาสนาถ้ากลับไปบ้าน จะอยู่ได้ไม่เกิน 7 วัน แม่ก็บอกว่า ถ้าอยู่ได้แค่นั้นก็ไม่เป็นไร จะขอไปเลี้ยงเอง จะไม่ขอเจาะหน้าท้อง ไม่เจาะคอ ไม่ผ่าตัดหัว เพราะจะเอาไปเลี้ยงก่อน พอกลับมา น้องก็ดีขึ้น แข็งแรง กินข้าวได้ ยิ้มเก่ง เป็นปกติแบบเด็กน้อย เขามองไม่เห็นหรอก แต่เขารับรู้ หูเขาได้ยิน รับรู้ว่าเราพูดอะไร อยากดูแลด้วยตัวเอง เพราะเราไม่อยากให้เขาทรมาณไปมากกว่านี้ อยากให้เขาอยู่กับเรานานๆ”
“(ถาม-ในความเป็นแม่ เรามีลูกที่ไม่ปกติ รู้สึกเสียใจไหม?) ตอนแรกก็เสียใจว่า ทำไมเราไม่ไปฝากท้อง ทำไมเราเราไม่ดูแล แต่ทางกลับกัน พอเราเห็นวาสนา เราจะบอกว่า แม่ขอโทษนะที่แม่ไม่ได้ฝากท้อง ไม่ได้ดูแล แต่ตอนนี้แม่ขอเป็นแม่ที่ดีที่สุดที่จะเลี้ยงให้ได้”
ติ๊ก เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน จึงสู้ชีวิตช่วยแม่ทำงานตั้งแต่เด็ก เมื่อโตขึ้น จึงตัดสินใจไปทำงานต่างถิ่น จนสามารถสร้างบ้านให้แม่ได้ ก่อนพบรัก แต่สุดท้ายก็จบด้วยการเลิกรา
“ก็อยู่กับแม่ 2 คน แม่ส่งเรียนแค่ ป.6 แม่พาไปรับจ้างเกี่ยวข้าววันละ 100 ที่บ้านยากจน อยู่กับแม่ เลยตัดสินใจไปทำงาน เพราะหนี้เยอะ เพราะทำหนี้ไว้เยอะ ก็เลยตัดสินใจไปทำงานภูเก็ต เพราะจะเลี้ยงแม่ เพราะแม่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเลี้ยงเรามาเหมือนกัน”
“(ถาม-แล้วบ้านที่เห็นนี่ เรามาปลูกสร้างให้หรือ?) ปลูกสร้างให้ตอนที่เราไปทำงาน แต่ก่อนมีกระท่อมน้อยหน้าบ้านแถวนี้ (ถาม-เราไปทำงานเก็บเงิน?) ไปทำงานไม่กลับบ้านเลยเกือบ 3 ปี ส่งเงินอย่างเดียว บ้านเสร็จก็ไม่มา หนูไปทำงานภูเก็ต ก็เจอแฟน ทีนี้แฟนบอกเลิก เลยกลับมาอยู่บ้าน พอมาอยู่บ้าน ถึงรู้ว่าท้อง พอคลอดน้องมา ไม่มีการติดต่อกันเลย ไม่มีการมาช่วยเหลือ เราหาเลี้ยงกับยาย ตั้งแต่ก้าวออกจากภูเก็ตถึงตอนนี้ ไม่ได้ติดต่อกันเลย”
การมีลูกป่วยที่ต้องดูแลตลอดเวลา ทำให้ติ๊ก เสาหลักของบ้านไม่มีทางเลือกมากนักในการทำงานหารายได้เลี้ยงครอบครัว สุดท้ายจึงตัดสินใจทำขนมไทยใส่บาตรออนไลน์ ขนมที่ทำ ได้แก่ ขนมกล้วย ขนมแฟง ฯลฯ
“ช่วงหนึ่งเขาเก็บเกี่ยวแล้ว ก็ไม่มีงานแล้ว ฉันเลยบอก ทำขนมเถอะ แม่ทำให้ดู ยายจำได้ ก็เลยทำขึ้นมา เขาเล่นโทรศัพท์เป็น เขาก็ขาย ตั้งแต่แรกๆ ก็ขายทางออนไลน์” ลำดวน ฉิมกลาง แม่ของติ๊ก ย้อนที่มาของการทำขนมขาย
ขณะที่ติ๊ก บอกว่า กระแสตอบรับขนมไทยใส่บาตรออนไลน์ของเธอค่อนข้างดี และมีแต่เสียงชื่นชม
“อยากลองดู ลองพูดขาย เราเขียนไปว่า รับใส่บาตรออนไลน์นะ รับแจกคนแก่ คนพิการ คนยากไร้ จะมีคนสั่งเราไหม ก็ลองพูดดู ก็มีคนช่วยเหลือ ช่วยซื้อเยอะ ไม่มีใครว่าเราให้เสียใจ มีแต่คนบอกว่า ดีแล้วนะ มีอาชีพทำ มีอาชีพเลี้ยงลูก เก่งมากเลย เป็นผู้หญิงที่เก่ง (ถาม-ทำไมเราไม่คิดไปเช่าที่แผงตลาดขาย?) เราไม่มีคนดูแลน้องวาสนา เราทำกับบ้าน เรายังได้ดูแลตลอด 24 ชม. เราไปส่งมา เราก็ได้เห็นน้องเลย ได้เลี้ยงตลอด”
“(ถาม-ทำขนมแบบนี้รายได้เลี้ยงครอบครัวได้หรือ?) ก็พอได้ พอหักค่าใช้จ่าย ก็จะได้ประมาณ 200-300 ก็โอเคนะต่อวัน เพราะเรามีออเดอร์ทุกวัน (ถาม-วันนี้มีออเดอร์เท่าไหร่?) มี 300 ออเดอร์วันนี้ไปแจกให้คนแก่”
แม้จะมีคนสั่งขนมไทยของติ๊กทุกวัน เพื่อใส่บาตรออนไลน์บ้าง ให้ไปแจกคนชราคนพิการบ้าง แต่ติ๊กก็ยอมรับว่า เคยมีคนหลอกสั่งเหมือนกัน
“บางคนสั่งมาในเฟซ คนในเฟซเราก็ไม่รู้นะ เพราะหลายคนมาก บางทีสั่งซื้อขนมเรา 200 เราทำเสร็จ บล็อกเรา แต่เราก็ไม่โทษ เราเอาไปทำบุญต่อ ไปถวายเพลพระ คิดว่าเราทำบุญให้ลูก บางคนเหมือนมาหลอก สั่งเล่น พอเราทำจริง จะส่งรูปให้ ส่งไม่ได้ บล็อกเรา หนีเรา (ถาม-โกรธไหม?) ไม่ คิดว่าเขาไม่ซื้อเรา ไม่เป็นไร คนลำบากกว่าเราก็ยังมี เอาไปบริจาค ถวายพระบ้าง เอาให้คนเร่ร่อนเก็บขยะกิน แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว เพราะเขาไม่เอา แล้วเราจะไปโกรธเขาได้ยังไง”
ในวันที่มีออเดอร์ใส่บาตร ติ๊กจะขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด พร้อมกับขนมไทย เพื่อไปให้ทันใส่บาตรพระ พร้อมกับถ่ายรูปการใส่บาตรเพื่อยืนยันกับลูกค้าว่าทำจริง หากมีออเดอร์ให้แจกคนชรา คนพิการ คนยากไร้ ติ๊กก็จะขี่มอเตอร์ไซค์ตระเวนแจกเช่นกัน
“(ถาม-รู้สึกอย่างไรบ้างกับการตระเวนแจก?) คิดว่ามีความสุขสนุกดี คิดว่ามีรายได้ทุกวันเข้ามา พอได้จุนเจือน้อง ก็ดี พอเราไปแจก เราว่าเราลำบาก พอเราไปเห็นคนเก็บขยะ เขาไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีข้าวกิน พอเขาได้ของเรา เขาดีใจมากเลยที่เราเอาของไปให้ (ถาม-เราเห็นแล้วเรารู้สึกยังไง?) ก็มีความสุข สนุก และผู้ใจบุญที่เขาทำบุญมา เขาก็มีความสุข ที่ให้เราได้เป็นสะพานบุญต่อ แจกขนม แจกของ”
“(ถาม-เป็นเสาหลักหารายได้คนเดียว หนักไหม?) ไม่หนัก ถึงจะเป็นอาชีพขายของเล็กๆ น้อยๆ ก็มีความสุขนะ ชีวิตไปวันๆ อนาคตช่างมันเถอะ ให้แม่มีความสุข ลูกมีความสุข เราทำได้ เราสู้อยู่แล้ว”
ชีวิตของติ๊กวันนี้ ไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่า ขอให้ได้ทำขนมทุกวัน ได้เห็นหน้าลูก เห็นหน้าแม่ทุกวัน คือกำลังใจที่ดีที่สุดแล้ว พร้อมจะสู้ให้ถึงที่สุด
“เวลาไปแจกของ เห็นคนเร่ร่อน นอนกลางถนน เขายังลำบากกว่าเรา เรามีมือสองมือ เราต้องสู้ให้ถึงที่สุด เท่าที่ลูกกับแม่จะสบาย”
หากท่านใดต้องการอุดหนุนขนมไทยใส่บาตรของ “ติ๊ก” สามารถติดต่อไปได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก “สุพรรณี เหล่ากลาง” หรือหากต้องการช่วยเหลือ สามาถโอนเงินไปได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขาพิมาย ชื่อบัญชี น.ส.สุพรรณี เหล่ากลาง เลขบัญชี 0158132524
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “วาสนาของแม่”
https://www.youtube.com/watch?v=0KROylgP8QA
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos
