xs
xsm
sm
md
lg

“ป้าสมควร” แม้ไร้ขา 1 ข้าง สู้ทำน้ำพริกปลาร้าหาเลี้ยงหลาน-ลูกสาวที่ป่วยทำงานหนักไม่ได้!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “ป้าสมควร” ที่แม้พิการไร้ขา 1 ข้าง แต่สู้ทำงานเป็นเสาหลักหาเลี้ยงหลานและลูกสาวที่ป่วยทำงานหนักไม่ได้ แม้เครียดกับชีวิต แต่จะสู้เพื่อหลาน



ป้าสมควร เกลี้ยงประเสริฐ กับวัย 62 ในวันนี้ แม้จะไร้ขา 1 ข้างมา 3 ปีแล้ว แต่ยังต้องแบกภาระในฐานะเสาหลักของครอบครัว ที่ต้องหาเลี้ยงลูกสาวที่ป่วยทำงานหนักไม่ได้ และลูกของลูกสาวหรือหลานชาย วัย 10 ขวบ


“รถมันเฉี่ยวชนที่ตลาด แล้วพอดีขาข้างนี้ (ขาขวา) มันลง ข้างนี้มันใส่หัวเข่าเทียมด้วย ไม่ได้ไปหาหมอ มันก็เลย เหมือนเป็นหนองข้างใน ไปหาอีกทีติดเชื้อแล้ว หมอเลยให้ตัดขา (ถาม-นานไหม หลังถูกชน กว่าจะต้องตัดขา?) ก็อยู่นาน ก็ทำงาน ไม่ได้ไปหาหมอ ทำจนเดินหนองไหล ถึงได้ไป (ถาม-ทำไมเราไม่ไปหาหมอตอนนั้น?) เสียดายงาน หาเงิน เสียดายขาดรายได้ รับจ้างเลี้ยงเด็ก ถ้าไปก็ไม่มีคนเลี้ยงเด็ก ก็ทำไป เลี้ยงจนขาขาด พอกลับมา เด็ก เขาก็เอามาให้เลี้ยง ทีนี้พอนานๆ ไป เราไปหาหมอเรื่อย เขาก็ต้องหาคนอื่นเลี้ยงแทนแล้ว”


หลังสูญเสียขาไป 1 ข้าง ป้าสมควรต้องปรับตัวให้เข้ากับวีลแชร์ เพราะเป็นอุปกรณ์สำคัญและจำเป็นต่อการใช้ชีวิตและทำมาหาเลี้ยงครอบครัว

“(ถาม-ปรับตัวยากไหมกับชีวิตที่ไม่มีขา 1 ข้าง?) ก็ไม่ยาก กลับมาก็ไม่ได้หยุดอีกเหมือนกัน ก็ทำ ใครเอาผ้ามาให้ซัก ก็ทำ ก็นั่งรถเข็น ก็ซัก ใช้ไม้ตากอย่างนี้ ก็ทำ (ถาม-ปัจจุบันนี้ เด็กที่รับจ้างเลี้ยงไปไหนหมด?) ช่วงโควิด ก็ย้ายไปไหนต่อไหน เมื่อก่อนพยาบาลจะเอามาให้เลี้ยง พอโควิดเข้ามา ก็ไม่มีเลย ส่วนซักผ้าก็มีประปราย”


นอกจากพิการ ป้าสมควรยังถูกหลายโรครุมเร้าทั้งรูมาตอยด์ หัวใจ ความดัน และไขมันแต่เมื่อเป็นเสาหลักของบ้านเพียงคนเดียว และงานรับจ้างเลี้ยงเด็ก ไม่มี เหลือแค่ซักผ้าประปราย ป้าจึงหันมาทำน้ำพริกปลาร้าขาย เพื่อเพิ่มรายได้

“เลยหันมาทำน้ำพริกปลาร้าเลี้ยงหลาน (ถาม-ปัจจุบันทำอะไรบ้างที่เป็นรายได้ของครอบครัวเรา?) ตอนนี้ก็ซักผ้า สับปลาร้าเพิ่งจะเริ่มสับ (ถาม-ซักผ้าเท่าที่ดูก็ไม่ได้เยอะเท่าไหร่ คิดค่าซักยังไง?) บางทีก็ได้ 50 บาท ถ้าผ้าเยอะๆ ตะกร้าใหญ่ๆ เขาก็ให้ 100 บาท”


ป้าสมควรเคยใช้ชีวิตอยู่ที่สุพรรณบุรีกับสามี ก่อนแยกทางกันได้ 20 ปีแล้ว ปัจจุบันป้าอยู่กับลูกสาวและหลานที่ห้องเช่าเล็กๆ ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนลูกชายอีกคนก็มีครอบครัวมีลูกแล้วเช่นกัน


“(ถาม-ทุกวันนี้ลูกชายมาดูแลช่วยเหลืออะไรป้าบ้างไหม?) ไม่ได้ช่วยอะไรเลย (ถาม-เขาทำงานอะไร?) เขาขับรถรับพนักงาน เขามีลูกอ่อน ภาระเขาเยอะ (ถาม-แล้วลูกสาว ไปทำงานอะไรไม่ได้หรือ?) เขาไม่ทำ ก็ไม่รู้เขานะ เขาบอกเขาทำไม่ไหว ก็ไม่รู้จะไปว่ายังไงเขา เขาว่าเขาไม่ไหว (ถาม-แล้วอาการเจ็บป่วยของเขาทุกวันนี้เป็นยังไง ส่งผลกระทบกับชีวิตเขายังไงบ้างเท่าที่เห็น?) ก็เห็นเขากินได้ แต่เวลาเขาทำอะไรนั่นๆ จะเหนื่อย ทำงานหนักไม่ได้ (ถาม-เคยมีขั้นรุนแรงต้องไป รพ.ไหม?) มี เกือบตายเที่ยวหนึ่ง นอนอยู่ข้างใน ป้าก็ขาไม่ดี เข้าไปดูไม่ได้ ก็เรียก ให้พี่ชายโทรให้กู้ภัยมา เอาออกซิเจนใส่ แล้วก็ไป รพ. ถึงได้ตรวจรู้ว่า เป็นปอด ก็นอนอยู่ข้างใน กินแต่ยาพาราฯ เป็นกระปุกๆ กินไม่รู้เท่าไหร่ เมื่อก่อนเขาก็ทำงานโรงงาน ทำงานทุกอย่าง ขายของอะไรก็ทำทุกอย่าง 20 กว่าปีนี่ไม่ได้ทำอะไรเลย (ถาม-20 ปีเลยหรือ ใครเป็นคนหาเลี้ยง?) ป้านี่แหละ”


ด้าน ภัทรศยา เกลี้ยงประเสริฐ ลูกสาวป้าสมควร พูดถึงอาการป่วยที่ทำให้ตนทำงานไม่ได้

“ทำอะไรไม่ได้ เมื่อก่อนกินข้าวก็เหนื่อย พูดก็เหนื่อย ทำอะไรไม่ได้เลย ลูกชายคอยหาให้กินตลอด จนพอหนูมากินยา หนูเริ่มดีขึ้น หนูกินมา 10 ปีแล้ว ต้องกินให้ตรง เพราะหมอบอกว่า เชื้อราในปอดมันลุกลามไวกว่ามะเร็งหลายร้อยเท่า ถ้าเราหยุดกินยา มันจะกระจายเลย ถ้าหนูหยุดยา หนูมีโอกาสจะเป็นมะเร็ง ก็ไม่กล้าไปตรวจ หนูกลัว”


ขณะที่ ธรรมรัตน์ อารีวงศ์สกุล หรือแสตมป์ ลูกชายวัย 10 ขวบของภัทรศยา ซึ่งกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลก พยายามช่วยยายทำปลาร้าสับเท่าที่ตัวเองพอจะช่วยได้

“(ถาม-อยู่ที่บ้านนี่ เรามีหน้าที่ช่วยทำอะไรบ้าง?) ล้างจาน ช่วยลากราวผ้า ช่วยยกของ (ถาม-ทำปลาร้าสับ วันหนึ่งทำเยอะไหม?) บางวันก็ทำน้อย บางวันก็ทำเยอะ (ถาม-ขายดีไหม?) ดี (ถาม-เวลาไปขาย ใครเอาไปขาย?) แม่เอาไปตามร้านให้เขาขายต่อ บางวันหนูก็ไปกับแม่ (ถาม-ปีที่แล้วเราซ้ำชั้น ไม่ได้ไปเรียนหรือ?) ใช่ ช่วยยายช่วยแม่ทำปลาร้าสับ ช่วยหั่นตะไคร้ เคยหั่นอยู่วันหนึ่ง มันบาดมือ เลยไม่ค่อยได้ทำแล้ว ก็ไปขายน้ำส้มแทน ไปรับเขามา (ถาม-ไปขายแต่ละครั้ง ได้เงินเยอะไหม?) 50 บาท (ถาม-ไปขายที่ไหนบ้าง?) ปั่นจักรยานขายแถวนี้”


“(ถาม-พูดถึงทำปลาร้าสับ วันหนึ่งป้าสมควรทำกี่กระปุก?) บางวันส่งเขา 20 กระปุก เราส่งเขา 15 บาท เขาไปขาย 20 บาท (ถาม-เราทำทุกวันไหม?) ไม่ทุกวัน ถ้าเขายังไม่สั่งมา เราก็ไม่ทำ เราฝากขายบ้าง เงินสดบ้าง เจ้าที่เราไปส่ง 20 กระปุก เขาให้เป็นเงินสด เจ้าที่ฝาก 10 กระปุก รอให้เขาขายหมด เป็นเบี้ยหัวแตก”


ป้าสมควร ยอมรับว่า รายได้จากรับจ้างซักผ้าและทำน้ำพริกปลาร้าขาย บวกเบี้ยคนพิการคนชรายังไม่เพียงพอต่อการกินอยู่ 3 ชีวิต จึงยอมอดเพื่อให้ลูกและหลานได้กิน และพยายามทำงานเพื่อมีรายได้เพิ่ม

“พอกินไปวันๆ ถ้าวันไหนไม่มี ก็ไม่ได้กิน (ถาม-ก็ต้องอดเอา?) อด ยายบอกให้หลานมีกินอย่างเดียว ตัวยายคั่วพริกป่นไว้แล้วก็ละลายน้ำปลากิน มะนาวบีบ น้ำตาลเหยาะ กินอย่างนั้น (ถาม-เวลาไม่มีเป็นอย่างนั้นเลย?) ทุกวันนี้ก็เป็นอย่างนั้น”


“เขาจ้างฉีกหมูฝอยอะไร ทำทุกอย่าง (ถาม-เขาให้เท่าไหร่?) บางทีเขาเห็น เขาสงสาร เขาก็ให้ 100 บาท บางทีก็ 100-200 บางทีคนโน้นเขาอยู่ เขาก็เอาโน่นนี่มาให้กิน ได้กินกับเขานั่นแหละ”


“(ถาม-ปัญหาเรื่องความเป็นอยู่ นอกจากรายได้ไม่พอใช้จ่าย ต้องอดอยากแล้ว มันส่งผลกระทบอย่างอื่นอีกไหม?) ก็ส่งผลกระทบทั้งหลาน ไม่มีเงินเรียน ชีวิตมันจะไปยังไง พ่อก็ไม่ดูไม่ส่ง แถมแม่ก็ไม่หาเงินเลี้ยงลูก ก็ต้องยายทั้งนั้น ตื่นเช้ามาก็แม่มีอะไรกิน บอกดูเถอะ ตังค์ในกระเป๋า มันก็เอาไป 10 บาท ซื้อปาท่องโก๋กิน ไปโรงเรียนส่วนมากจะไม่ได้กินข้าวไป (ถาม-แล้วค่าเช่าทุกวันนี้มีติดค้างเขามากไหม?) ตอนนี้เหลือไม่มาก ตอนนี้เข้า 2 เดือน”


ป้าสมควร ยอมรับ เครียดกับชีวิต ที่มีกำลังใจอยู่ได้ เพราะหลาน

“(ถาม-ฟังๆ ดู ค่อนข้างบีบคั้น ทำให้เราทุกข์มาก เราผ่านแต่ละวันได้ยังไง?) ก็ไม่รู้ พอตื่นขึ้นมา ก็รอดมาอีกวันหนึ่งแล้ว บางทีเครียดมากๆ ไม่อยากให้สว่างเลยนะ เวลามันเดิน เดี๋ยวมืดๆ ค่าเช่าก็ต้องให้เขา บางทีไม่อยากให้มืดเลย เป็นทุกข์เรื่องค่าห้อง ค่าน้ำค่าไฟ เป็นทุกข์เท่านี้”


“ใจอยากกลับไปอยู่บ้าน (ถาม-บ้านอยู่ที่ไหน?) สามชุก สุพรรณบุรี (ถาม-ทำไมเรายังอยู่ที่นี่?) หลานไม่มีที่ไป แสตมป์ไม่มีที่อยู่ ไปอยู่โน่น ตาเขาก็ไม่ชอบ ก็เลยทนๆ อยู่เพื่อหลาน อีกอย่าง หลาน ลูกของลูกชาย ถ้าเราไม่เลี้ยง เขาก็ทำงานไม่ได้ (ถาม-เด็กเล็กใช่ไหม?) เด็กเล็ก ขวบกว่า กำลังเดิน (ถาม-ทุกคนก็มีภาระ แต่รับผิดชอบไม่ไหว สุดท้ายก็กลับมาที่แม่หมด วันที่แม่มีขาแค่ข้างเดียว ก็ยังต้องดูแลคนเหล่านี้อยู่?) บางทีกลางคืน นอนร้องไห้ กว่าจะหลับได้เครียด”


“(ถาม-ที่ผ่านมา อะไรทำให้ป้ามีกำลังใจลุกขึ้นมาเดินหน้าต่อไป?) หลาน เลี้ยงมาตั้งแต่ออก อยากบอกหลานว่า เรียนให้สูงๆ นะ จะได้มีงานทำ จะได้เลี้ยงตัวเองรอด ไม่ต้องมาหวังเลี้ยงยายหรอก”


หากท่านใดต้องการช่วยเหลือครอบครัวของป้าสมควร สามารถโอนไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาสามชุก ชื่อบัญชี นางสมควร เกลี้ยงประเสริฐ เลขบัญชี 711-046-9859


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “ยาใจ...ยายสมควร”
https://www.youtube.com/watch?v=6XnoOZZrQvw


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos




กำลังโหลดความคิดเห็น