xs
xsm
sm
md
lg

"พี่อัต" ชายที่แสนดี อาสาร่วมทุกข์หญิงคนรักตาบอด ทำงานทุกอย่างหาเลี้ยงภรรยา-แม่ยายเข่าเสื่อม!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “เก๋และพี่อัต” คู่รักที่เหมือนคู่แท้ เพราะแม้ฝ่ายหญิงจะตาบอด หลายโรครุมเร้า และมีหนี้ แต่พี่อัต ซึ่งไม่ได้มีฐานะ และทำงานหารายได้วันต่อวัน กลับพร้อมยอมเหนื่อยด้วยการเข้ามาร่วมทุกข์กับผู้หญิงคนนี้ ช่วยเป็นดวงตาและแขนขาให้เธอ รวมทั้งแม่ของเธอที่ไม่แข็งแรงอีกด้วย



บางครั้งชีวิตคนเราก็เจอมรสุมมากมาย แต่ในความโชคร้าย บางครั้งก็ยังมีเรื่องดีๆ เข้ามาให้อบอุ่นหัวใจและมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไป เช่นเดียวกับ "เก๋" พันธ์วิรา ตรีชิต สาวอยุธยา ก่อนจะโคจรมาเจอ "พี่อัต" ณัฐวรรธน์ ภิรมย์จิตชนะ หนุ่มที่แสนดี จนได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เก๋ต้องเจอมรสุมรุมเร้า ทั้งเรื่องสุขภาพและความรัก เริ่มจากการเป็นสาวโรงงานใน กทม. ก่อนจะเปลี่ยนอาชีพมาขับแท็กซี่ และเปลี่ยนอาชีพอีกครั้ง

"ขับแท็กซี่ได้ระยะหนึ่ง รู้สึกมันอันตราย เลยมาเรียนนวดแผนโบราณเมื่อประมาณปี 50 หลังจากนั้นก็ยึดอาชีพเป็นหมอนวดมา เรามีใบประกาศมีใบรับรองจากกรมแรงงาน มีการพัฒนาฝีมือแรงงานถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง"


แม้อาชีพนวดจะรายได้ดี แต่การต้องตระเวนนวด จนไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว ก็ทำให้เธอมีอันต้องเลิกรากับสามีที่อยู่ด้วยกันมาถึง 7 ปี

"เหมือนเราไม่ค่อยได้อยู่กับครอบครัว ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็ลดน้อยลง แฟนเขาเลยไปมีคนใหม่ ที่ดูแลเขาได้ดีมากกว่าเรา ตอนแรกเขาบอกว่า จะเลือกทั้งสองคน เราบอกไม่เอา ยังไงเรารับไม่ได้หรอก เราไม่เห็นมีความจำเป็นต้องมีสามีร่วมกับคนอื่น เราเลยออกมาดีกว่า"


จากนั้น เก๋ได้เซ้งร้านนวดแถวตลาดลำลูกกา จ.ปทุมธานี ต่อจากเพื่อนที่เลิกกิจการไปแต่งงานกับชาวต่างชาติ โดยเธอใช้ทุนตัวเองส่วนหนึ่ง และกู้มาด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งตอนแรกเธอยังไม่ป่วย ลูกค้าก็เยอะดี แต่ภายหลัง เมื่อเธอเริ่มป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ก็ทำให้ลูกค้าลดน้อยลง


"เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว มีอาการเส้นเลือดตีบในสมอง และทำให้ซีกซ้ายของเราหมดแรงไป ขาอ่อนแรง มือจับช้อนจับอะไรไม่ได้เลย พอออกจาก รพ.แล้ว คุณแม่จะมาบีบนวดให้เรา แม่เคยมีอาชีพเป็นหมอนวดแผนโบราณ บีบประมาณเดือนกว่า เก๋ก็สามารถใช้มือและขาข้างซ้ายนี่ได้"


แม้จะฟื้นฟูภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงให้กลับมาปกติได้ แต่หมอบอกว่า เส้นเลือดที่ตีบในสมอง ได้ทำให้เซลล์สมองบางส่วนตายไป แม้จะเพียงแค่จุดเล็กๆ แต่ก็ส่งผลให้ตาข้างซ้ายของเธอมืดบอดลง โดยไม่สามารถรักษาได้ ช่วงนั้นตาข้างขวายังสามารถมองเห็น แต่ปัจจุบันเห็นแค่เป็นเงาดำเท่านั้น

"ตอนนี้เวลามองคน จะไม่รู้ว่า คนนี้หน้าตาเป็นยังไง จะเห็นเหมือนเงาดำๆ"



ไม่ใช่แค่พิการทางสายตาหรือตามองไม่เห็น แต่เก๋ยังถูกอีกหลายโรคคุกคาม ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดันสูง ไตเสื่อมระยะที่ 4 และเนื้องอกที่หน้าอกด้านซ้าย ซึ่งผ่าตัดไปแล้ว

แม้โรคจะรุมเร้าแค่ไหน แต่เธอยังสามารถทำงานร้านนวดได้ กระทั่งโชคชะตาพาให้รู้จักพี่อัต โดยไม่คาดคิดว่า วันหนึ่งเขาจะกลายมาเป็นคู่ชีวิต


"ช่วงนั้นผมเป็นไรเดอร์ วิ่งงานทั่ว กทม. วันหนึ่งงานเด้งเข้ามา ไปส่งแถวตลาดลำลูกกา รู้สึกปวดเอว พอส่งงานเสร็จ เห็นร้านนวด จึงเข้าไปใช้บริการ"

หลังได้รับรู้เรื่องราวชีวิตของเก๋ ทั้งปัญหาสุขภาพที่ทำให้ลูกค้าลดลง ปัญหาสายตาที่มองไม่ค่อยเห็น รวมถึงเรื่องหนี้ที่ลงไปกับร้านนวด ทำให้พี่อัตทั้งรักและสงสาร จึงอยากดูแลและช่วยเหลือ


"พี่เขาปลอบใจเก๋ว่า ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพี่จะเข้ามาเป็นดวงตาให้ เป็นแขนเป็นขาให้ ...เรารู้สึกตื้นตันไปหมด เราไม่คิดว่าจะมีผู้ชายคนหนึ่งบอกว่า ไม่ต้องเสียใจนะ เดี๋ยวพี่จะดูแล ช่วยเหลือเก๋เอง"

หลังตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน พี่อัตทั้งวิ่งงานไรเดอร์ และช่วยเก๋ที่ร้านนวด แต่ทำได้ไม่เท่าไหร่ โรคโควิด-19 ก็ระบาดอย่างหนักในเมืองไทย หลายกิจการถูกสั่งปิดชั่วคราว รวมทั้งร้านนวด ทำให้พี่อัตและเก๋ต้องตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด อ.เสนา อยุธยา กับแม่เก๋


หลังจากนั้น ก็หาลู่ทางทำมาหากิน โดยพี่อัตใช้เงินทุนก้อนสุดท้ายของตนเอง ลงทุนปลูกพริก เพราะช่วงนั้นพริกราคาดี แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง เพราะปลูกยังไม่ทันไร ก็เจอปัญหาภัยแล้งเล่นงาน ทำให้พริกขาดน้ำไม่โต แต่ทั้งคู่ก็ไม่ท้อ เก๋ตัดสินใจกู้เงิน ในฐานะคนพิการ(ทางสายตา) มาให้พี่อัตเลี้ยงปลาดุกขาย ก่อนจะฝันสลายในเวลาต่อมา


"ซื้อมา 500 ตัว ทำบ่อเพื่ออนุบาลปลาก่อน ตอนแรกบ่อปูน เหมือนปลาไม่โต เปลี่ยนเป็นบ่อดิน พอปลาโตขึ้นมา เกือบจะได้จับขาย ช่วงเดือน ก.ย. ต.ค. (2564) ฝนมาแบบ ไม่นึกว่าจะท่วม ท่วมทั้งบ่อทั้งถนน ถนนนี้รถวิ่งไม่ได้เลย ปลาไปกับน้ำหมดเลย"

ลำพังฐานะครอบครัวก็ลำบากอยู่แล้ว ต้องกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนทำมาหากิน กลับต้องพบกับความล้มเหลวถึงสองครั้งสองครา ทั้งการปลูกพริกและเลี้ยงปลา อดถามเก๋และพี่อัตไม่ได้ว่า รู้สึกถอดใจไหมตอนนั้น?


"เก๋เคยบอกพี่อัตนะว่า พี่ พี่สามารถไปจากเก๋ได้นะ คือเราสงสารเขามากๆ เลย เขามาอยู่ในสภาพที่เราตกต่ำมากๆ เราย่ำแย่มากๆ แต่เราก็แข็งใจพูดนะตอนนั้น พี่ไปได้นะ พี่ไปอยู่กับคนที่เขาดีกว่าเรา เขาพร้อมกว่าเก๋ สามารถที่จะประคองชีวิตครอบครัวให้อยู่ดีกินดีได้ ไม่ใช่ลำบากแบบนี้ พี่เขาบอกว่า เขาไม่ไปหรอก ไม่ต้องมาให้เขาไปไหน เขาจะอยู่ที่นี่ อยู่กันไปจนกว่าเราจะตายจากกัน"


เมื่อน้ำท่วมจนไม่เหลือปลา เหลือแต่หนี้ที่ยังคงอยู่ และชีวิตที่ต้องเดินต่อไป พี่อัตเสาหลักคนเดียวของบ้าน ต้องดูแลทั้งภรรยาที่ตามองไม่เห็นและแม่ภรรยาที่เดินไม่ค่อยได้ เพราะเข่าเสื่อม นอกจากพี่อัตต้องดูแลทุกอย่างในบ้าน ทั้งหุงข้าวทำกับข้าวให้ภรรยาและแม่ได้กินแล้ว ช่วงน้ำท่วม เขายังต้องดิ้นรนหางานทำ เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ด้วยการพายเรือจากบ้านเพื่อไปทำงาน รปภ.ที่ห้างทุกวัน โดยมีเวลานอนแค่ 1 ชม.ต่อวันเท่านั้น!!


"ต้องพายเรือจากบ้านนานประมาณ 1 ชม. ไปถึงบ้าน อบต. แล้วขี่มอเตอร์ไซค์ที่เอาไปฝากไว้บ้าน อบต. เพื่อขี่ไปทำงาน เข้างาน 4 ทุ่ม เลิก 10 โมงเช้า พอเลิกงาน ก็ขี่มอเตอร์ไซค์มาที่บ้าน อบต. และพายเรือกลับมาบ้าน กว่าจะถึงบ้านเกือบบ่ายสอง ก็ทำกับข้าวให้ภรรยาและแม่ กว่าผมจะได้นอนพักผ่อนก็ 4-5 โมงเย็น ตีซะว่านอน 1 ชม. พอ 5 โมงก็ต้องเตรียมตัวพายเรือออกไปทำงาน"


พี่อัตต้องพายเรือออกไปทำงาน รปภ.นานประมาณ 2-3 เดือน โชคดีที่พอน้ำลด "บุญธรรม อ้วนพลี" สมาชิก อบต. ชายนา ได้ถามไถ่จนทราบว่า พี่อัตทำงานก่อสร้างได้ จึงให้พี่อัตไปทำงานต่อเติมปรับปรุงบ้านของตน เพื่อให้พี่อัตพอมีรายได้ดูแลครอบครัว พี่อัตจึงตัดสินใจลาออกจาก รปภ.


"เขาเป็นคนดีมาก ดูแลเมีย ดูแลแม่ยาย หาไม่ได้หรอกคนแบบนี้ อยู่กับคนตามองไม่เห็น (แม่ยาย) ขาพิการ สุดยอดเลยคนนี้" อบต.บุญธรรม อดชื่นชมพี่อัตไม่ได้

ทุกเช้า ก่อนไปทำงานก่อสร้าง พี่อัตจะทำงานบ้าน พร้อมหุงข้าวทำกับข้าวให้แม่และภรรยา นอกจากนี้ยังออกไปรับจ้างรดน้ำต้นไม้ เรียกว่า อะไรทำได้ ทำหมด


ขณะที่เก๋ แม้ครอบครัวจะลำบาก และตัวเองก็พิการทางสายตา แต่เธอยังมีจิตใจที่อยากช่วยเหลือสังคม จึงตั้ง “ชมรมส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเสนา” เพื่อช่วยเหลือผู้พิการให้มีอาชีพและเข้าถึงสิทธิต่างๆ ที่ควรจะได้รับ แม้งานของชมรมฯ จะทำให้พี่อัตต้องเหนื่อยมากขึ้นจากการช่วยภรรยา นอกเหนือจากงานก่อสร้างที่ต้องทำเพื่อครอบครัว แต่เขาก็ยินดี

ไม่ว่าต้องเหนื่อยแค่ไหน ทั้งงานในบ้านและนอกบ้าน พี่อัตพร้อมสู้ ไม่เคยคิดทิ้งภรรยาไปไหน


“ผมจะอยู่ดูแลเขาแบบนี้ ความห่วงความสงสารความรัก มันเหมือนผูกอยู่ในจิตใจเราแล้ว เรามีความสุขที่ได้ช่วยเขา ...ผมยังเคยนอนคิดว่า ถ้าวันใดผมสิ้นลมก่อนเขา เขาจะอยู่อย่างไร ผมยังกลัวตรงนี้”แต่ถ้าภรรยาสิ้นลมก่อน พี่อัตยืนยันว่า จะอยู่ดูแลคุณแม่ของภรรยาต่อไป

หากท่านใดต้องการช่วยเหลือพี่อัตและพี่เก๋ ให้มีทุนในการประกอบอาชีพเพื่อปลดหนี้ สามารถโอนไปได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี พันธ์วิรา ตรีชิต เลขที่บัญชี 049 146 0091


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “พี่อัต...ชายที่แสนดี”
https://www.youtube.com/watch?v=xh_rqPA_k8o


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


กำลังโหลดความคิดเห็น