รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “น้องดาว” เด็กกตัญญูสู้ชีวิต ที่แม้ไม่ได้อยู่ในอ้อมกอดของพ่อแม่ แต่มีน้าที่รักและดูแลดั่งลูก ส่งเสียให้น้องได้เรียน ขณะที่น้องก็ช่วยแบ่งเบาภาระ ด้วยการช่วยน้ารับจ้างทำงาน พร้อมฝันอยากเรียนหมอ แต่ไม่รู้จะเดินถึงฝันหรือไม่?
ด้วยความยากจน และโอกาสไม่ได้เรียนต่อค่อนข้างสูง ทำให้ “น้ากุ้ง” ภักดี ศรีบุรินทร์ รับ “น้องดาว” ด.ญ.ศิริลักษณ์ อ่อนทอง มาดูแลและส่งเสียให้เรียนหนังสือที่ จ.ราชบุรี ตั้งแต่น้องอยู่ ป.3 หรืออายุประมาณ 10 ขวบ ขณะที่พ่อแม่น้องดาวใช้ชีวิตและทำมาหากินอยู่ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
"(ถาม-แล้วพ่อแม่น้องดาวส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้น้าไหม?) ไม่ เขาบอก ถ้ามี ก็จะให้ เขาพูดอย่างนี้ เราก็บอกเมื่อไหร่จะมี นานแล้ว เขาบอกเดี๋ยวขายของได้ก็จะให้ เขาว่าอย่างนั้น ก็ไม่ได้พูดอะไร"
ไม่ใช่แค่น้องดาวเท่านั้นที่น้ากุ้งช่วยดูแล แต่ยังมีหลานอีก 5 คนที่น้ารับมาดูแลตั้งแต่หลานยังเด็กๆ เช่นกัน
“พ่อแม่ของหลานๆ เขาแยกทางกัน สงสารหลาน เลยเอามาเลี้ยง ถ้าหลานไปกับพ่อแม่เขาก็ไม่มีที่อยู่ ย้ายไปย้ายมา ก็เลยต้องเอามาเป็นจุดศูนย์รวมที่นี่ ดูแลให้เขาเรียน”
แม่ของน้องดาวเป็นพี่สาวของน้ากุ้ง น้าไม่เพียงดูแลส่งเสียให้น้องดาวได้เรียนหนังสือต่อ แต่น้ายังต้องแบกหน้าไปกู้เงินเพื่อให้แม่น้องดาวไปลงทุนขายของตามที่แม่น้องร้องขออีกด้วย ขณะที่น้องดาวรู้ว่าน้ากุ้งเหนื่อยและลำบาก จึงอยากช่วยทำงาน โดยเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ซึ่งน้ากุ้งก็อยากให้หลานๆ ทุกคนได้ฝึกทำงาน จะได้มีรายได้ไว้ใช้ยามจำเป็น
ปัจจุบัน “น้องดาว” อายุ 14 ปี เพิ่งเรียนจบ ป.6 และเรียนต่อชั้น ม.1 น้องไม่เพียงเป็นเด็กเรียนเก่ง แต่ยังทำงานคล่องแคล่วว่องไวไม่แพ้ผู้ใหญ่ โดยน้องดาวเริ่มตามน้ากุ้งไปทำงานตั้งแต่อายุแค่ 10 ขวบ
ทุกวันที่ไปทำงาน ทั้งน้าและหลานต้องตื่นแต่เช้ามืด เพื่อเตรียมอาหารไปกินที่ทำงาน
“ตี 3 ครึ่ง ต้องลุกแล้ว ทำกับข้าวห่อไปให้หลานกินที่ทำงาน และกินแค่เช้ากับเย็น กลางวันไม่กิน เพราะกลางวันต้องรีบทำงาน (ถาม-ไม่หิวหรือ?) ไม่หิว กินน้ำเปล่าไป ก็อิ่ม ถ้าเรากินข้าว จะเสียเวลา กินเช้ากับเย็นก็พอ”
น้ากุ้งต้องขี่รถมอเตอร์ไซค์พ่วงหลาน 2 คนจากบ้านใน อ.จอมบึง ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เพื่อไปทำงานที่ฟาร์มเห็ดของนายจ้างต่างอำเภอ ซึ่งไกลจากบ้านเกือบ 20 กม. แม้เสี่ยงอันตรายแค่ไหน ก็ต้องไป เพราะมีลูกหลานถึง 6 ชีวิตให้ต้องดูแล
แม้ค่าตอบแทนของน้ากุ้งวันละ 500 อาจดูไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับเวลาและแรงที่ต้องใช้ในการทุบเห็ดนาน 13-14 ชม.ต่อวัน ก็อาจเป็นรายได้ที่ไม่มาก นี่ยังไม่รวมการต้องขี่รถมอเตอร์ไซค์จากบ้านไป-กลับที่ทำงานไกลเกือบ 40 กม.ยิ่งเพิ่มความอ่อนล้าให้กับน้ากุ้งมากยิ่งขึ้น ขณะที่หลานๆ มาช่วยน้ากุ้งทำงานได้แค่วันหยุดและปิดเทอมเท่านั้น
“(ถาม-ทำงานตั้งแต่กี่โมง?) ตั้งแต่ตี 4 ถึง 6 โมงเย็น (ถาม-วันหนึ่งทุบเห็ดได้กี่ก้อน?) บางวันก็ได้ 800 ก้อน บางวันก็ได้เป็นพันก้อน ...เครียดเหมือนกัน พอเด็กจะเปิดเทอม ตาย น้าต้องมาทำงานคนเดียว จะทันไหมเนี่ย วันละ 400-500 คงไม่ทันแน่ ไหนต้องขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งนักเรียน (หลาน) ก่อนถึงจะได้ไปทำงาน”
แม้ต้องทำงานที่ใช้แรงและอากาศค่อนข้างร้อนเป็นเวลายาวนาน แต่น้องดาวกลับไม่รู้สึกเบื่อ โดยบอกว่า "สนุกดี" และรู้สึกภูมิใจที่สามารถทำงานหาเงินได้
"(ถาม-เรารู้สึกอายไหม เพื่อนวัยเดียวกันเขาไม่ต้องมานั่งทำงานเหนื่อยตรากตรำอย่างนี้?) หนูไม่อาย รู้สึกภูมิใจมากกว่า (ถาม-เคยมีเพื่อนถามไหม ทำไมเธอต้องไปทำงาน ไม่มาเที่ยวเล่นกับเรา?) ไม่เคย มีแต่เพื่อนถามว่า ทำยังไงถึงจะมีงานมีเงินแบบนี้บ้าง"
ช่วยแบ่งเบาภาระน้า-เก็บออมไว้ใช้ยามจำเป็น!!
ทุกครั้งที่ได้ค่าตอบแทนจากการรับจ้างทุบเห็ด น้องดาวจะแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน แบ่งให้น้าครึ่งหนึ่งไว้ใช้จ่ายในบ้าน ส่วนหนึ่งไว้กินขนมและซื้อหนังสือ เพราะน้องชอบอ่านหนังสือ และอีกส่วนฝากนายจ้างไว้ จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์การเรียนเมื่อใด ค่อยเบิก
แม้ยากจน แต่น้องดาว "เรียนดี" และฝันอยากเป็น "หมอ"!!
“(ถาม-น้องทำงานด้วย เรียนด้วย กระทบการเรียนไหม?) เกรดเขาก็ดีอยู่นะ ดีกว่าคนอื่นทั่วไป น้องดาวสอบได้ที่ 1 มาตลอด” ภักดี ศรีบุรินทร์ (น้ากุ้ง) การันตีเรื่องเรียนของหลาน
"หนูอยากเรียนหมอ อยากช่วยเหลือคน และเผื่อไว้รักษาน้าบ้าง (น้าป่วยเป็นเบาหวาน)”
แม้อยากให้หลานได้เรียนสูงๆ และได้เป็นหมอสมใจ แต่น้ากุ้งก็อดหนักใจไม่ได้ว่า จะเอาตังค์ที่ไหนมาส่งให้หลานเรียนหมอ
“เขาอยากเป็นหมอ เราบอก น้าจะเอาตังค์ที่ไหนส่งให้เอ็งเป็นหมอ หมอนี่ไม่ใช่บาทสองบาทนะ มันเยอะ เราเรียนไปทำงานไป มันไม่มีเวลานะ หมอนี่เขาต้องอ่านหนังสือเยอะ เอาให้รอด ม.6 ก่อน วันไหนที่น้าล้มขึ้นมา ใครจะส่งเอ็ง”
“น้าก็สอนหลานว่า เราจน เราต้องดิ้นรน ...ถ้าไม่มีน้า แล้วพวกเอ็งจะอยู่ยังไง ก็บอกเขาให้ดิ้นรน ให้เข้มแข็ง ทำให้เก่ง ให้แกร่ง ไปสู้โลกภายนอก”
ด้านครูวณิชา ข้อร่วมคิด ครูโรงเรียนบ้านตลาดควาย (ประชานุกูล) จ.ราชบุรี ที่น้องดาวเพิ่งเรียนจบ ป.6 มา ก็อยากเห็นน้องดาวเดินถึงฝัน
“น้องดาวเป็นเด็กขยันขันแข็ง เรียนเก่งมาก ตั้งใจทำงาน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น หากมีแรงสนับสนุนจากภายนอก มาช่วยเหลือด้วย น้องคงไปสู่เส้นทางที่ฝันได้จริงๆ ในอนาคต”
ไม่ว่าอนาคต น้องดาวจะมีโอกาสเดินถึงฝันในการเป็นหมอหรือไม่ แต่วันนี้ น้องอยากขอบคุณน้ากุ้งที่เลี้ยงดูเธอมาหลายปีและรักเธอไม่ต่างจากลูกของน้าเอง
"อยากขอบคุณน้า ขอบคุณที่รักหนูเหมือนลูก (ถาม-ถ้าไม่มีน้าวันนั้นที่รับหนูมาดูแล เราคิดไหมว่า ชีวิตเราจะเป็นยังไง?) หนูคงไม่ได้เรียน"
น้องดาวอาจกำหนดอนาคตของตนเองไม่ได้ว่า จะได้เป็นหมอดังฝันหรือไม่ แต่สิ่งที่น้องอยากทำและคิดว่าทำได้ก็คือ"จะทำให้น้ามีความสุข เหมือนที่น้าทำให้หนูมีความสุข"
หากท่านใดต้องการสนับสนุนทุนการศึกษาให้น้องดาวเดินถึงฝัน สามารถโอนไปได้ที่ ธนาคารออมสิน สาขาจอมบึง ชื่อบัญชี ด.ญ.ศิริลักษณ์ อ่อนทอง เลขที่บัญชี 020 359 223 292
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “ดาว...สู้เพื่อฝัน”
https://www.youtube.com/watch?v=oCyMoxIhwrY&t=23s
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos