ผลสำรวจเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ไม่คึกคัก มีเงินสะพัดเพียง 1 แสนล้านบาท ผลจากน้ำมันแพง และยังกังวลโควิด ทำให้ประชาชน ลดการเดินทาง คุมค่าใช้จ่าย เน้นเที่ยวใกล้บ้าน แนะรัฐ เพิ่มมาตรการดูแลค่าครองชีพทุกด้าน
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจหอการค้าไทย รายงานผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 พบว่า จะมีเงินสะพัด 106,772 ล้านบาท ลดลง 5.4 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2564 แต่หากเทียบกับช่วงปี 2562 ที่ยังไม่มีโควิด จะติดลบ 21% ต่ำสุดรอบ 10 ปี
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ กล่าวว่า ภาพรวมคนตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ยังกังวลการแพร่ระบาดของโควิดจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน ที่มีมาก และปัญหาราคาน้ำมันแพง จากเหตุรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คนส่วนใหญ่ จะท่องเที่ยวใกล้บ้านเป็นหลัก เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง นอกจากนี้ การที่ภาครัฐ มีข้อจำกัดในการเล่นน้ำสงกรานต์ เพราะเกรงจะส่งผลให้คนติดเชื้อโควิดมากขึ้นอีก ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศการเล่นสงการนต์ปีนี้ ไม่คึกคักเท่าที่ควร
นายธนวรรธน์ ยังเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไทยมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และทั้งปีนี้จะเติบโตได้ 2.5-4 % หรือ เฉลี่ย 3.5% แม้สงครามรัสเซีย-ยูเครน จะยืดเยื้อ แต่ไม่รุนแรง ดังนั้นจึงมีโอกาสที่ราคาน้ำมัน อาจเริ่มลดลงได้หลังจากนี้ ขณะที่ภาคเอกชน ต้องไม่ปรับราคาสินค้าเร็วเกินไป หรือ ควรตรึงราคาไว้ก่อน เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน ซึ่งหากทุกอย่างดีขึ้น ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจหอการค้าไทย จะประเมินตัวเลขใหม่อีกครั้ง