รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “แม่ปู” คุณแม่คนหนึ่งที่ต้องเจอสารพัดวิกฤต ทั้งปัญหาครอบครัวที่เกิดจากสามีนอกใจ และปัญหาโรครุมเร้า จนทำให้เธอต้องกลายเป็นคนพิการ แม้ต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวพิการ แต่เธอก็พร้อมสู้เพื่อให้ลูกๆ อยู่รอด
คุณแม่ปู "นภา บุญญะ" ก่อนจะกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวพิการทุกวันนี้ เธอต้องเจอสารพัดวิกฤต ตั้งแต่ยังใช้ชีวิตอยู่กับสามี แม้จะมีลูกด้วยกันแล้ว แต่สามียังไปมีหญิงอื่น ซ้ำร้าย!! ยังนำลูกที่เกิดกับหญิงคนนั้นมาให้เธอช่วยเลี้ยงอีกด้วย
"ตัวแม่เด็กเขานอนป่วยติดเตียงแล้ว ไม่สามารถดูแลลูกได้เองแล้ว และเด็กไม่มีคนดูแล เราก็สงสาร เอามาเลี้ยงตั้งแต่ขวบกว่า พอ 2 ขวบ แม่เขาก็เสีย เลยดูแลกันต่อเนื่องมา"
หลังจากนั้น สามีก็ไปมีหญิงคนใหม่อีก คราวนี้ถึงกับไล่เธอและลูกออกจากบ้าน โดยบอกว่า จะขายบ้านทิ้ง เพื่อไปใช้ชีวิตกับหญิงคนใหม่ที่มีฐานะ
แม้แม่ปูจะรู้อยู่ว่า การต้องไปเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวสู้ชีวิตกับลูกเพียงลำพัง ก็คงลำบากแสนสาหัสแล้ว แต่เธอก็เลือกที่จะไม่ทิ้งลูกบุญธรรมไว้ข้างหลัง
"ตอนเก็บเสื้อผ้าสองคนแม่ลูกใส่กระเป๋า น้องมาวินตอนนั้น 2 ขวบ มานั่งใกล้ๆ แล้วบอกว่า 'แม่จ๋า หนูไปด้วย อย่าทิ้งหนูนะ หนูไม่มีใคร' พอเขาพูดอย่างนี้ หัวใจมันอ่อนหมดเลย ยังไงก็ทิ้งไม่ได้ เลยหันไปถามฟลุคว่า จะทำยังไงกับน้อง ฟลุคบอก แม่เอาน้องไปเถอะ อย่าทิ้งน้องเลย ก็เลยบอกว่า แล้วหนูต้องเรียน แม่ต้องทำงาน ใครจะดูน้อง เขาบอกว่า หนูยอมดูน้องเอง หนูยังไม่เรียนก็ได้ หนูเอาน้องก่อน ก็เลยหิ้วกันไป 3 ชีวิต"
ด้าน “ครูต้อย” นภาพร วัฒนสิงหะ จิตอาสาที่เคยให้การช่วยเหลือแม่ปู อดรู้สึกชื่นชมแม่ปูไม่ได้
"ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่นภา (แม่ปู) ครูว่าเขาไม่เลี้ยง แม้แต่เรายังทำใจไม่ได้เลย คุณเอาเด็กชายคนหนึ่งตัวเล็กๆ น่ารักมาให้เราเลี้ยง โยนภาระมาให้เรา แล้วคุณก็ไปไหนไม่รู้ มันไม่ใช่เรื่อง ซึ่งนภา เป็นคนดีจริงๆ"
เมื่อต้องเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งเดียว แม่ปูกับอาชีพแม่ครัวตามร้านอาหารจึงต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ลูกอยู่รอด แต่เมื่อคนไม่ใช่เครื่องจักร บวกโรคเบาหวานที่รุมเร้า ทำให้สุขภาพเธอทรุด ถึงขั้นต้องตัดขาซ้ายตั้งแต่ช่วงใต้หัวเข่าลงไป กลายเป็นคนพิการตามมา
"เท้ามันอักเสบ บวม เป็นหนองในฝ่าเท้าโดยไม่รู้ตัวเลย แม่ก็คิดว่าทำงานหนักเกินไป 8 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม ถึงจะได้หยุด และไม่มีวันหยุดเลย ก็อดทนกินยาเอา ทายาเอาโดยไม่ได้หาหมอ เพราะไม่อยากหยุด กลัวว่าหยุดแล้วจะเสียรายได้ พอรู้อีกทีคือร่างกายมันไม่ไหวแล้ว เลยไปหาหมอ"
เคยคิดท้อแท้ แต่ฮึดสู้เพราะลูก!!
ระหว่างรักษาตัว แม่ปูยอมรับว่า เคยคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะสภาพจิตใจย่ำแย่มากกับบาดแผลที่แสนเจ็บปวด
"ปวดจนต้อง เวลาเขามาล้างแผล ต้องเอาผ้าอุดปากไว้ เพราะเราไม่อยากร้องให้ข้างเตียงเขาตกใจ และมันปวดไปถึงหัวใจ มันจี๊ดเหมือนไฟฟ้าช็อตเข้าไปที่หัวใจ"
ขณะที่ลูกทั้งสองคนต้องไปนอนเฝ้าแม่ที่ รพ. โดยฟลุคต้องดูแลทั้งน้องวัยกำลังซน และดูแลแม่ จนฟลุคแทบจะป่วยไปด้วยอีกคน ด้วยความสงสารลูก แม่ปูจึงฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง
"คิดว่าถ้าแม่ด่วนตายแล้วลูกจะอยู่ยังไง ใครจะดูแลพวกเขา แม่เลยฮึดสู้ขึ้นมาว่า เป็นไงเป็นกัน เจ็บปวดครั้งนี้ มันคงไม่มีอะไรเจ็บปวดกับชีวิตเราอีกแล้ว คงไม่มีอะไรร้ายแรงไปกว่านี้อีกแล้ว"
เมื่อเดินไม่ได้แล้ว แม่ปูต้องหาอาชีพใหม่เพื่อเลี้ยงลูก จึงเลือกทำสิ่งที่ตนเองถนัด นั่นคือ ทำน้ำพริกขาย ซึ่งมีหลายอย่าง เช่น น้ำพริกนรกแมงดา น้ำพริกนรกปลาย่าง น้ำพริกนรกกุ้ง น้ำพริกตาแดง ฯลฯ โดยขายเพียงกระปุกละ 20 บาทเท่านั้น!!
ด้านน้องฟลุคไม่เพียงช่วยแม่ทำน้ำพริกในบางขั้นตอน แต่ยังเข็นวีลแชร์ให้แม่เพื่อออกไปขายน้ำพริกอีกด้วย จุดที่ขายประจำคือ ตลาดหน้าวัดไตรรัตนาราม รามอินทรา ซอย 8 นอกจากนี้ยังขายผ่านช่องทางออนไลน์ (เฟซบุ๊ก Napa Boonya) อีกด้วย
อยากเห็นลูกอยู่ได้ ในวันที่แม่ไม่อยู่!!
"แม่พยายามสอนฟลุคทุกอย่าง ไม่ว่าการทำอาหาร หุงข้าว หาเงิน ค้าขาย ปลูกฝังน้องไว้ ...แม่ก็เชื่อมั่นว่า ถ้าไม่มีแม่อยู่ ฟลุคจะดูแลน้องได้"
ขณะที่น้องฟลุค อยากบอกแม่ว่า"รักแม่ อยากเป็นกำลังใจให้แม่สู้ๆ ต่อไป ...เห็นแม่เหนื่อย ก็ต้องสู้ เพื่อแม่"
“(ถาม-เรารู้สึกอยากมีพ่อไหม?) ไม่ เข็ดแล้ว ไม่อยากมีแล้ว มีแค่แม่ก็พอแล้ว มีแม่ก็เหมือนมีพ่ออีกคน (ถาม-ทุกวันนี้ความรู้สึกที่เรามีต่อพ่อ เรารู้สึกยังไง?) ก็ยังดีอยู่ (ถาม-ไม่โกรธแค้นเขา?) อะไรที่ปล่อยได้ก็ปล่อย อะไรที่คิดแล้วไม่ดี ก็ปล่อยมันไป มีแม่ก็พอแล้ว รักแม่และรักน้องๆ อยากจะดูแลให้ถึงที่สุด”
สำหรับแม่ปู ชีวิตวันนี้ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้แล้ว แค่มีความสุขกับลูกๆ ไปในแต่ละวัน ก็พอใจแล้ว หลังจากนี้ ไม่ว่าชีวิตจะลำบากหรือต้องพิการแค่ไหน ก็จะอยู่และสู้เพื่อลูก
"แม่มีความสุขกับสิ่งที่แม่เป็นอยู่กับลูกๆ เคยมีครั้งหนึ่งที่เล็บแม่ฉีกและเลือดไหล แล้วแม่ก็ถามตัวเองว่า เป็นแผลอีกแล้ว ถ้าต้องตัดอีก กุดอีก จะพิการซ้ำซ้อนจะไหวไหมเนี่ย เคยถามตัวเอง แล้วก็ตอบตัวเองว่า ต่อให้พิการมากกว่านี้หรือต้องตัดขาอีกข้าง ก็ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อลูก ยังไงก็ต้องสู้ไป จนกว่าจะหมดลมหายใจ ไม่ท้อแล้ว"
หากท่านใดต้องการช่วยอุดหนุนน้ำพริกของคุณแม่ปู ติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก Napa Boonya หรือโทร. 096-610-3587
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “สู้ด้วยกันนะลูก”
https://www.youtube.com/watch?v=ME7t6G9bUCg&t=437s
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos