ธ.ก.ส.จัดสินเชื่อพิเศษวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท เป็นทุนสนับสนุนการเลี้ยงหมูครบวงจร เพื่อเพิ่มปริมาณหมู ออกสู่ตลาดมากขึ้น บรรเทาผลกระทบเนื้อหมูราคาแพง
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. กล่าวว่า รัฐบาล เร่งออกนโยบายแก้ไขปัญหาราคาเนื้อหมูที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งงดส่งออกหมูมีชีวิต ,งดเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมหรือภาษี ,ส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อทดแทนการนำเข้า เพื่อช่วยเหลือด้านต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์
นอกจากนี้ ยังจัดสินเชื่อพิเศษ เพื่อฟื้นฟูการผลิตหมูเป็นการจำเพาะ ผ่านระบบ ธ.ก.ส. เพื่อสร้างความเข้มแข็งในระบบการเลี้ยง ซึ่งจะส่งผลดีทั้งต่อเกษตรกรผู้ผลิตและผู้บริโภค
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ชี้แจงว่า ปัจจุบันไทย มีเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ประมาณ 190,000 ราย กว่า 90% เป็นรายย่อย ซึ่งผลิตหมูในระบบ 30% ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. 59, 205 ราย ขณะที่ผู้เลี้ยงรายกลางและรายใหญ่ มีประมาณ 3% แต่ผลิตได้ 70% โดยสุกรที่ขุนได้ เฉลี่ยปีละ 22 ล้านตัว ซึ่งกว่า 90% ใช้บริโภคภายในประเทศ
ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ผลกระทบของโรคระบาดร้ายแรงในหมู ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แม้ไทยจะควบคุมโรคได้ดี แต่ก็ทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหาย 30-40% เหลือเพียงประมาณ 18 ล้านตัว และคาดว่า ปี 2565 จะผลิตได้เพียง 13-15 ล้านตัว เมื่อรวมกับปัจจัยราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น ทำให้มีผู้เลี้ยงรายใหม่ลดลง ดังนั้นเพื่อบรรเทาปัญหานี้ ธ.ก.ส. จึงจัดสินเชื่อพิเศษ วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท เป็นทุนในการสนับสนุนการเลี้ยงสุกร ,การเพาะปลูกผลผลิตทางการเกษตรที่จำเป็นต่อการผลิตอาหารสัตว์ และการวางระบบการเลี้ยง ที่ได้มาตรฐานเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงจากปัญหาโรคระบาดที่มักจะเกิดขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณหมู ออกสู่ตลาดมากขึ้น
ประกอบด้วย 1.สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ สำหรับเกษตรกรรายย่อยและบุคคลในครัวเรือนที่ประสงค์ จะกู้เงิน เพื่อไปลงทุนเลี้ยงหมู หรืออื่นๆ เพื่อสร้างอาชีพ วงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย กรณีกู้เป็นค่าใช้จ่ายคิดอัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี กำหนดระยะเวลาชำระคืน ไม่เกิน 12 เดือน นับแต่วันกู้ ,กรณีเป็นค่าลงทุนปีที่ 1-3 คิดดอกเบี้ย 4 %ต่อปี ปีที่ 4 - 5 ดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ (ปัจจุบัน MRR อยู่ที่ 6.5 %ต่อปี) กำหนดระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 5 ปี ปลอดชำระต้นเงิน 2 ปีแรก
2. สินเชื่อ Food Safety เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนหรือเพื่อเป็นค่าลงทุนในการส่งเสริมการประกอบอาชีพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม , 3.สินเชื่อเสริมแกร่งเอสเอ็มอีเกษตร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนหรือค่าลงทุนในการประกอบธุรกิจ โดยมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ หรือรักษาสิ่งแวดล้อม กำหนดวงเงินกู้ไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 2 อยู่ที่ 4 % ต่อปี และปีที่ 3 – 10 ดอกเบี้ยประมาณ 5 - 6.25%ต่อปี ตามประเภทของลูกค้า ผู้สนใจติดต่อได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555