xs
xsm
sm
md
lg

คุณย่านักสู้-หลานยอดกตัญญู! "ย่าต้อย" รักหลานดั่งลูก เดินเท้าวันละหลายกิโลฯ เพื่อตกปลาเลี้ยงหลานหลายชีวิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “คุณย่าต้อย” คุณย่าสู้ชีวิตที่อุทิศแรงกายแรงใจเพื่อเลี้ยงหลานๆ หลายชีวิตด้วยการเดินเท้าวันละหลายกิโลฯ ตั้งแต่ตี 2 เพื่อไปนั่งตกปลาอย่างอดทนเป็นเวลาหลายชั่วโมง เพื่อได้ปลามาทอดขายเลี้ยงหลานวัยกำลังกิน-กำลังเรียนหลายชีวิต



คุณย่าต้อย “พรรณี สังขโบสถ์” กับวัย 62 ในวันนี้ อาจไม่ต้องลำบากมากนัก ถ้าน้องชายยังมีชีวิตอยู่ คุณย่าคงแค่ช่วยเลี้ยงลูกๆ ของน้องชายยามน้องชายไปทำงาน แต่เมื่อเหตุการณ์พลิกผัน ต้องสูญเสียน้องชายอย่างไม่มีวันกลับ ภาระในการดูแลและหาเลี้ยงหลานๆ หลายชีวิตจึงตกอยู่กับคุณย่าต้อย ที่น้องชายรักเหมือนแม่


“ทีแรกเราอยู่อ่างทอง น้องชายอยู่นี่ (กทม.) เขาเรียกแม่ เขาบอกว่า ขึ้นมาเลี้ยงหลานให้ผมหน่อย เราก็ขึ้นมา ตอนนั้น เมียเขายังอยู่ เรามาเลี้ยงให้ เลี้ยงมาตั้งแต่พวกนี้เล็กๆ พออยู่ไปไม่เท่าไหร่ เมียก็หนีไป มีครอบครัวใหม่ เราก็เลี้ยงหลานอยู่ น้องชายทำงาน เลี้ยงมานาน จนน้องชายมาเจ็บ ไม่สบาย เป็นเชื้อราในสมอง เราก็ต้องดูแลเขา จนเขาตาย ก็เลี้ยงลูกเขามาตลอด”


คำสั่งเสียครั้งสุดท้ายของน้องชาย!!

“น้องตาย ลูกสามคนเราก็ต้องรับภาระ เพราะน้องฝากฝังไว้ ก่อนตาย เขาเรียกลูกเขาไป สอนทุกคนว่า ให้อยู่กับย่า เพราะย่าเลี้ยงเธอได้ เขาเลี้ยงพ่อมา เขาบอก ถ้าพ่อตาย คนที่เสียใจมากคือย่า เมื่อย่าแก่ตัวให้ดูแลย่าด้วย เขาสอนลูกเขา พอเขาตาย เราก็ดูแลหลานๆ เรื่อยมา”


หลังสูญเสียน้องชาย คุณย่าต้อยเครียดมาก เพราะไม่รู้จะทำมาหากินอะไร เพื่อเลี้ยงหลานๆ วัยกำลังกิน กำลังเรียน

“ตอนนั้นบอกตรงๆ ว่าสุดๆ ไม่รู้จะทำยังไง หลานก็จะกิน เรียนก็เรียน เลยคว้าคันเบ็ด ตอนแรกแก้เครียดเฉยๆ เขาไปเรียน เราก็ไปนั่งตกปลาเล่นๆ บังเอิญได้ปลามา ก็เลยบอกกับหลานว่า ต่อไปนี้ สิ้นพ่อแล้ว เราไม่มีใครที่เขาจะมาช่วยเหลือเรานะ เราต้องพึ่งลำแข้งเรากันเอง เราต้องช่วยเหลือตัวเราเอง เราถึงจะอยู่รอด เราก็สอนหลานว่า ให้มานะอดทน ย่าไปหาปลา เธอไปขายกัน เราจะได้ไปกันรอด หลานก็เชื่อฟัง เอาไปขาย ขายดี”


6 ปีแล้วที่คุณย่าต้อยยึดอาชีพตกปลาเลี้ยงหลาน โดยทุกวัน คุณย่าต้องตื่นตั้งแต่ตี 2 เพื่อหุงหาอาหาร ไว้ให้หลานๆ ได้กินตอนเช้า หลังจากนั้นคุณย่าจะรีบคว้าคันเบ็ดเดินเท้าออกจากบ้านทั้งที่ฟ้ายังไม่สาง เพื่อไปยังจุดตกปลา ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านหลายกิโลเมตร ไม่ใช่แค่หนทางที่ยาวไกล แต่คุณย่ายังต้องนั่งตกปลาเพียงลำพังท่ามกลางความมืดอย่างอดทนและใจเย็นเป็นเวลาหลายชั่วโมงตั้งแต่ตี 3 จนถึงช่วงสายๆ 8-9 โมง เพื่อให้ได้ปลาเพียงพอที่จะขาย จึงจะเดินกลับบ้าน ซึ่งปลาส่วนใหญ่ที่คุณย่าตกได้และนำมาทอดขายคือ ปลานิล และขายเพียงถุงละ 20 บาท


คุณย่าห่วงหลานมากกว่าตัวเองเสมอ แม้ยามป่วย ออกไปตกปลาไม่ไหว ยังไม่อยากไปหาหมอ เพราะกลัวตังค์หมดไปกับค่ารักษา แล้วจะไม่มีให้หลานได้กินได้ใช้


กว่าจะได้ปลามาทอดขายในแต่ละวัน ต้องใช้เวลา เพราะมีหลายขั้นตอน ซึ่งคุณย่าพยายามสอนน้องมิ้ว ด.ญ.สายทิพย์ แก้วกัลยา หลานคนโตวัย 12 เรียนอยู่ชั้น ม.1 ให้ทำเป็นทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะตกปลา แล่ปลา หรือทอดปลาก็ตาม เพื่อที่วันหนึ่งถ้าไม่มีย่าแล้ว หลานๆ จะได้หากินเองได้


ไม่ใช่แค่การทำมาหากิน แต่คุณย่าต้อยยังอบรมสั่งสอนให้หลานๆ ทุกคนมีระเบียบวินัย และความรับผิดชอบ ด้วยการเขียนข้อความที่หลานๆ ควรทำและไม่ควรทำ ติดตามผนังบ้าน รวมถึงห้องน้ำ เช่น"ทุกคนต้องมีความรับผิดชอบของตัวเอง", "ทุกคนต้องช่วยเหลือตัวเองก่อน ก่อนที่จะให้ใครมาช่วย จำไว้" ฯลฯนอกจากนี้ยังฝึกหลานแต่ละคนต้องมีหน้าที่ในการทำงานบ้าน โดยแบ่งความรับผิดชอบกันไป ซึ่งโชคดีที่หลานๆ ทุกคนเชื่อฟังและปฏิบัติตามที่ย่าสอน


“มิ้วจะหนักหน่อย เพราะเป็นพี่คนโต มีหุงข้าว สอนทำกับข้าว ล้างถ้วยล้างจาน ในครัวเก็บกวาดหมด เช็ดถูหมด พรีมซักผ้าเก็บกวาดถูบ้าน แล้วเขาทำน้ำแข็งไว้ให้น้องๆ กิน เจ้ามอส ทิว มีหน้าที่กรอกน้ำและเช็ดผ้าเช็ดโต๊ะบ้านไม่ให้มีฝุ่น เก็บกวาดหน้าบ้าน ทุกคนมีหน้าที่ แต่เวลาเสร็จงานปุ๊บ กินอยู่เรียบร้อย ต้องมาทำการบ้านอ่านหนังสือ”


อยากเห็นหลานเป็นคนดี-เลี้ยงตัวเองได้!!

“เราสอน เราบอกว่า ทุกวันนี้ที่ย่าดุ เพื่อให้พวกเธอเป็นคนดีกัน ถ้าสิ้นย่าไปแล้ว เธอจะได้คุ้มครองตัวเองได้ เลี้ยงตัวเองได้ อยู่กับใครก็อยู่ได้ เราเป็นคนเข้มงวดมาก ถ้าเราไม่เข้มงวด เด็กจะไม่ได้แบบนี้ มีแต่เขาชมกัน เราก็ภูมิใจ”


ถ้าย่ายังอยู่ จะพยายามส่งหลานให้เรียนสูงๆ

“ถ้าชีวิตเราอยู่ก็ส่งเขาตลอด ให้เขาเรียนให้สูง ยังพูดกับมิ้วว่า มิ้วเรียนสูง เรียนไปเลย ถ้ามีทุนก็เรียน ถ้าชีวิตย่าอยู่ก็เรียน แต่ถ้าสูงมากๆ ให้ทำงาน แล้วหาเงินมาช่วยเลี้ยงน้องหรือทำงานด้วยเรียนด้วย แล้วมาช่วยส่งน้อง เขาก็ยอมรับ ไม่ได้คิดว่า ทำได้ต้องเลี้ยงย่านะ ไม่ เงินเหมือนกัน ให้เขาออมกันหมด คนไหนได้มา เก็บ ต่างคนต่างเก็บ จะมีที่เก็บให้เขา ถ้าอยากได้ ไปซื้อเอา ให้เขาทำแบบนี้”


หลานกตัญญู-พร้อมดูแลย่าเมื่อโต!!

“อยากให้ย่าอยู่กับหนูนานๆ แต่ย่าแก่แล้ว ถึงย่าจะไมให้หนูเลี้ยงดูย่าตอนโต แต่หนูก็จะเลี้ยงดู เลี้ยงดูย่า มีเงินก็ให้ย่า รักย่ามาก อยากให้ย่าสบาย ไม่อยากให้ย่าต้องมานั่งลำบากแบบนี้ หนูจะพยายามทำให้ย่าไม่ต้องเป็นห่วง และไม่ให้ย่าลำบาก”ด.ญ.สายทิพย์ แก้วกัลยา (มิ้ว) หลานคนโต


ขอแค่หลานเป็นเด็กดี-เรียนสูง เพื่อไม่ต้องลำบากเหมือนย่า

“ขอให้เขาเป็นเด็กดีอย่างเดียว สนใจการเรียนอย่างเดียว ให้เรียนสูงๆ เอาไว้ เพื่ออนาคตข้างหน้าจะได้ไม่ลำบาก เราบอกให้ดูย่าเป็นตัวอย่าง ทำไมย่าต้องเดินไปตกปลา เพื่ออะไร ทำไมตอนพ่อยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่มีการศึกษาอะไร อย่าให้เป็นอย่างพ่อ อย่างย่า ต้องโตไปให้ดีกว่าย่า”


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “เด็กขายปลากับคุณย่านักสู้”
https://www.youtube.com/watch?v=lRU_HfZYmn4


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos












กำลังโหลดความคิดเห็น