ธนาคารแห่งประเทศไทย ,ธนาคารออมสิน และ “ไลน์แมนวงใน” เสริมสภาพคล่องร้านอาหารและไรเดอร์ ผ่านโครงการสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนพิเศษ ลดผลกระทบจากโควิด
นาง วิเรขา สันตะพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกำกับและตรวจสอบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเนื่องและรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว บริการ และร้านอาหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงประสานธนาคารออมสิน และ “ไลน์แมนวงใน” (LINE MAN Wongnai) แพลตฟอร์มที่บริหารโดยคนไทย ซึ่งมีข้อมูลร้านอาหารมากที่สุดกว่า 620,000 ร้าน ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม นอกเหนือจากมาตรการทางการเงิน ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ทยอยออกไปแล้ว
ครั้งนี้ เป็นการให้ความช่วยเหลืออีกรูปแบบหนึ่ง ผ่านการเป็นตัวกลางในการประสานระหว่างสถาบันการเงิน และผู้ประกอบการ ให้ได้รับการเสริมสภาพคล่องได้ตรงจุด เพื่อต่อลมหายใจผู้ประกอบการร้านอาหาร เพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร และกลุ่มไรเดอร์ เข้าถึงความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องได้มากขึ้น
นายวีระชัย อมรถกลสุเวช รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ ชี้แจงว่า โครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือร้านอาหาร ในแพลตฟอร์มของ LINE MAN Wongnai มี 4 สินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนเป็นพิเศษ คือ 1.สินเชื่อสู้ภัยโควิดสำหรับร้านค้า และไรเดอร์ วงเงินให้กู้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือนเท่านั้น โดยไม่ต้องมีหลักประกันการกู้ และไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรก
2. สินเชื่ออิ่มใจ สำหรับธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ให้กู้ รายละไม่เกิน 100,000 บาท ดอกเบี้ย 3.99%ต่อปี ไม่ต้องมีหลักประกันการกู้ และไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรกเช่นกัน
3. สินเชื่อซอฟท์โลน สำหรับเอสเอ็มอีท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ทั้งร้านอาหาร/เครื่องดื่ม สปา/นวดแผนไทย บริการขนส่ง/นำเที่ยว วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทต่อราย ดอกเบี้ย 3.99% ต่อปี ระยะเวลากู้นานไม่เกิน 7 ปี ไม่ต้องชำระเงินต้น 2 ปี และ 4. สินเชื่อซอฟท์โลน ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อฟื้นฟูกิจการ เปิดกว้างทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเดิม อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5 ปีแรก 5% ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี และไม่ชำระเงินต้น 2 ปี
ผู้ประกอบการที่สนใจ ติดต่อยื่นขอสินเชื่อได้หลายช่องทาง ทั้งที่เว็บไซต์ออมสิน , แอปพลิเคชัน MyMo และธนาคารออมสินทุกสาขา