รมช.คมนาคม ติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงท่าเรือโดยสารเจ้าพระยา พร้อมเปิดใช้ 19 สถานีเรือเต็มรูปแบบ ภายในปี 66
ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมผ่านระบบแอพพลิเคชันซูม ร่วมกับอธิบดีกรมเจ้าท่าและคณะผู้บริหารกรมเจ้าท่า เพื่อติดตามความคืบหน้าการพัฒนาท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาและท่าเรือท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล เนื่องจากเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการพัฒนาเพื่อยกระดับท่าเรือให้เป็นสถานีเรือ(Smart Pier)เชื่อมโยงระบบขนส่งอื่น โดยอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้รายงานสรุปความคืบหน้าการดำเนินการปรับปรุงท่าเรือต่างๆ ดังนี้
ท่าเรือแม่น้ำเจ้าพระยา
ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 3 ท่า ท่ากรมเจ้าท่า, ท่าสะพานพุทธ, ท่าน้ำนนทบุรี
อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 8 ท่า
•ท่าช้าง (ผลงาน 70%) แล้วเสร็จภายใน 31 ก.ค. 64
•ท่าเตียน (ผลงาน 60%) แล้วเสร็จภายใน 31 ก.ค. 64
•ท่าราชินี (ผลงาน 60%) แล้วเสร็จภายใน 31 ก.ค. 64
•ท่าสาทร (ผลงาน 40%) แล้วเสร็จภายใน 31 ธ.ค. 64
•ท่าพระราม7 (ผู้รับจ้างเตรียมดำเนินการปรับปรุง) แล้วเสร็จภายใน 30 พ.ย. 64
•ท่าพายัพ (ผู้รับจ้างเตรียมดำเนินการปรับปรุง) แล้วเสร็จภายใน 31 ธ.ค. 64
•ท่าเกียกกาย (ผลงาน 0.5%) แล้วเสร็จภายใน 31 พ.ค. 65
•ท่าบางโพ (ผลงาน 0.1%) แล้วเสร็จภายใน 31 พ.ค. 65
แผนดำเนินการปรับปรุงในปี 2565 แล้วเสร็จในปี 2566 จำนวน 8 ท่า ได้แก่ ท่าราชวงศ์, ท่าสี่พระยา, ท่าพระปิ่นเกล้า, ท่าพระราม5, ท่าเขียวไข่กา, ท่าสะพานกรุงธน, ท่าพรานนก, ท่าเทเวศร์(ท่าข้ามฟาก) พร้อมทั้งดำเนินการติดตั้งระบบ Sofe ware และระบบการให้บริการบนท่าเรือทั้ง 19 ท่า ให้เป็น Smart Pier
ท่าเรือท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
•ท่าเรือปากเมง จ.ตรัง (ผลงาน 73%) จะแล้วเสร็จภายใน พ.ค. 64 พร้อมเปิดให้บริการ ส.ค. 64
•ท่าเรือศาลด่าน จ.กระบี่ (ผลงาน 70%) จะแล้วเสร็จภายใน พ.ค. 64 พร้อมเปิดให้บริการ ส.ค. 64
•ท่าเรือท้องศาลา และท่าเรือหาดริ้น อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี (ผลงาน 8.6%) กำหนดแล้วเสร็จ 5 ธ.ค. 65
•ท่าเรือปากคลองจิหลาด จ.กระบี่ (ผลงาน 10.12%) กำหนดแล้วเสร็จ 19 ม.ค. 65
•ท่าเรือเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี (ขั้นตอนการอนุมัติจ้าง) คาดว่าจะดำเนินการปรับปรุงแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค. 66
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยฯ ได้เน้นย้ำให้ข้าราชการกรมเจ้าท่าโดยเฉพาะผู้ที่ต้องปฎิบัติงานดูแลพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการเรือโดยสาร ผู้ให้บริการ ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 ให้ครบทุกคน เพื่อเป็นการป้องกันทั้งในส่วนของผู้ปฏิบัติงานเองและผู้โดยสาร
