กกร. คงเป้าจีดีพีปีนี้ โต 0.5 ถึง 2% ได้แรงหนุนจากการส่งออก แนะรัฐ อัดงบเยียวยา,ฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากผลกระทบโควิด-19 ควบคู่กับการเร่งฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.ประจำเดือนมิถุนายน กล่าวว่า กกร.คงเป้าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2564 ที่ 0.5 - 2% , ส่วนการส่งออก โต 5 - 7% ตามการฟื้นตัวของการค้าโลก ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศ มีแนวโน้มฟื้นตัวช้า และยังต้องการแรงสนับสนุน จากทั้งนโยบายการเงินและการคลัง เพิ่มเติม เพราะผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19ระลอกนี้ รุนแรงกว่า 2 ระลอกก่อนหน้า
กกร.จึงเสนอภาครัฐ 1.เร่งฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายและบริหารจัดการมาตรการควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ไปพร้อมกับการเร่งออกแผนสนับสนุนการท่องเที่ยวตามรูปแบบของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีน และทยอยขยายขอบเขตไปยังจังหวัดท่องเที่ยวอื่นต่อไป ซึ่งหากสำเร็จเชื่อว่าจะช่วยให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเกิดขึ้นได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ แทนที่จะเป็นไตรมาสที่ 1 ของปีหน้าตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์
2.เพิ่มมาตรการช่วยเหลือด้านกำลังซื้อภาคประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง ให้เข้ามาพยุงกำลังซื้อได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 โดยพิจารณาเพิ่มวงเงินสนับสนุนการใช้จ่ายจาก 3,000 บาทเป็น 6,000 บาท ซึ่งจะช่วยให้มีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจาก 9 หมื่นล้านบาท เป็น 1.8 แสนล้านบาท เมื่อรวมเม็ดเงินของประชาชนที่นำออกมาใช้จ่ายคู่กับเม็ดเงินจากโครงการคนละครึ่ง
3.พิจารณาแนวทางมาตรการยิ่งใช้ยิ่งได้ (E-voucher) ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นจะช่วยผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ให้ผู้บริโภคสามารถนำเงินที่ใช้จ่ายสำหรับซื้อสินค้าและบริการ มาใช้เพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้โดยตรง ซึ่งเชื่อว่าจะอำนวยความสะดวกและดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงมากขึ้น
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าไทย กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นเร็วขึ้น นอกเหนือจากการออกมาตรการกระตุ้น คือ ต้องทำให้ประชาชนมั่นใจในการป้องกันตัวเองจากโควิด ,เร่งจัดหาและกระจายวัคซีนให้ได้ตามแผนที่วางไว้ เพื่อฉีดให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด
ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. ย้ำว่า การเมืองในประเทศ ไม่ได้สร้างความกังวลให้กับภาคเอกชน เท่ากับ เรื่องวัคซีนป้องกันโควิด ที่ต้องการให้เร่งกระจายฉีดเร็วที่สุด เพื่อให้กิจกรรมเศรษฐกิจกลับมา และให้การเปิดประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งต้องดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ปลดล็อคอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ซึ่งการประชุมวันนี้ กกร. ได้รับทราบประเด็นปัญหาเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ที่ธนาคารต่างๆ ดำเนินการ ซึ่งอยู่ระหว่างหาแนวทางปรับปรุงเงื่อนไข เพื่อนำเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
