กรมสรรพากร ขานรับมติคณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ และมาตรการภาษีเพื่อรองรับการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ (Thailand Plus Package) ออกไปถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนและการพัฒนาในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และรองรับการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรและการจ้างงานที่มีศักยภาพสูงเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเตรียมความพร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายหลังจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสCOVID-19 คลี่คลาย
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กระทรวงการคลัง
โดยกรมสรรพากร ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ให้เป็นไปตามเป้าหมายในยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ สนับสนุนการเพิ่มผลิตภาพและการเตรียมกำลังคนสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ เพื่อเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายหลังจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 คลี่คลายลง จึงเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่. ...) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ และมาตรการภาษีเพื่อรองรับการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ (Thailand Plus Package)) เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๑. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ กำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักรายจ่ายทรัพย์สินที่บริจาคให้แก่ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ที่จัดตั้งโดยสถานศึกษาของรัฐ สถาบันอุดมศึกษาเอกชน หรือโรงเรียนเอกชน แต่ไม่รวมถึงโรงเรียนนอกระบบได้ ๓ เท่า และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการบริจาคทรัพย์สิน โดยต้องไม่นำต้นทุนของทรัพย์สินไปหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิ ทั้งนี้ สำหรับการบริจาคตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕
๒. มาตรการภาษีเพื่อรองรับการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ (Thailand Plus Package)โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักรายจ่ายที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ สำหรับรายจ่ายดังต่อไปนี้
๒.๑ รายจ่ายสำหรับการลงทุนในระบบอัตโนมัติหักได้ ๒ เท่า
๒.๒ รายจ่ายสำหรับการจ้างงานบุคลากรผู้มีทักษะสูงหักได้ ๑.๕ เท่า
๒.๓ รายจ่ายสำหรับการส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะสูงหักได้ ๒.๕ เท่า
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวด้วยว่า การขยายระยะเวลามาตรการภาษีในครั้งนี้เป็นการดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรของประเทศให้มีทักษะสูงพร้อมสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ และอุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต (New Engine of Growth) และรองรับการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในระบบอัตโนมัติในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกรวมทั้งการจ้างงานบุคลากรผู้มีทักษะสูง และเมื่อสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 คลี่คลายลง จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง