ประธานคณะกรรมาธิการฯจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ สภาฯ เรียกร้องรัฐบาลรีบแก้ปัญหาน้ำประปาเค็ม หวั่นส่งผลกระทบประชาชนเป็นโรคไตวาย
ที่รัฐสภา นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ หรือ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ เปิดเผยถึงกรณีน้ำประปาเค็มว่า ในกรุงเทพฯ นนทบุรี และ สมุทรปราการ ประชาชนใน 3 จังหวัดนี้ ประสบปัญหาน้ำประปาเค็ม หากค่าความเค็มเกิน 0.5 กรัมต่อลิตร ถือว่าเป็นน้ำกร่อยและ 1 กรัมต่อลิตร ถือว่าเป็นน้ำเค็ม
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา เกิดน้ำทะเลหนุนทำให้ค่าความเค็มของน้ำอยู่ที่ 2.2 กรัมต่อลิตร สูงกว่ามาตรฐานสำหรับน้ำเค็ม 1 เท่าตัว ซึ่งตนได้เตือนไปแล้วว่าให้รีบหาทางแก้ไข เพราะปัจจุบันแม่น้ำเจ้าพระยา มีค่าความต้องการน้ำ 18,000 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยต้องเอาน้ำไปไล่น้ำเค็มปีหนึ่งประมาณ 3,500 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือเป็นปริมาณมาก
ดังนั้น จึงได้เสนอกรมชลประทาน และ รัฐบาล ให้พิจารณาสร้างทำนบดิน หรือประตูน้ำ และ ฝายพับได้ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยต้องติดตั้งแต่วันนี้ เพราะปริมาณความขาดแคลนน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยามากขึ้นปีละกว่า 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนใน 20 ปีข้างหน้า ความขาดแคลนน้ำจะเป็น 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงขอฝากกรมชลประทานและรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาน้ำเค็ม ไม่เช่นนั้นประชาชนทั้ง 3 จังหวัด ที่ใช้น้ำอาจเป็นโรคไตวาย โดย กมธ.จะประชุม เพื่อหารือเรื่องดังกล่าวในสัปดาห์หน้าหรือหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกครั้ง