xs
xsm
sm
md
lg

ปัญหาฝุ่นใต้พรม ยังวิกฤติ “สภาวิศวกร” เปิดโปรเจคแก้ฝุ่นในไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สุชัชวีร์” เปิดโปรเจคร่วมแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5ในประเทศไทย พัฒนารูปแบบการตรวจวัดและบริหารจัดการระดับคุณภาพอากาศ ,สร้างป้ายรถเมล์อัจฉริยะเตือนภัยฝุ่น, ขยายจุดติดตั้งป้ายรถเมล์อัจฉริยะ 9 พื้นที่เสี่ยงรอบ กทม. ย้ำต้องแก้ปัญหาเร่งด่วน 3 ด้านเพื่อคนไทย คือ ด้านสุขภาพ  ด้านผังเมือง ด้านคมนาคม  

ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร และ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า นอกจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ในปัจจุบัน / ฝุ่นพิษ PM2.5 เป็นอีกหนึ่งวิกฤติสุขภาพ ที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจคนไทย ที่ภาครัฐและทุกภาคส่วนต่างตระหนักถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม

สภาวิศวกร ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลมาตรฐานวิชาชีพด้านวิศวกรรม และพร้อมเคียงข้างประชาชนและสังคมเพื่อหาทางออกด้านวิศวกรรม จึงร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ดำเนินการติดตามปัญหาวิกฤตฝุ่นในประเทศไทยและกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน เปิดโปรเจคร่วมแก้ปัญหาฝุ่นประเทศไทย ดังนี้

• พัฒนารูปแบบการตรวจวัดและบริหารจัดการระดับคุณภาพอากาศ ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ บริเวณพื้นที่โล่งและพื้นที่สาธารณะใน กทม. โดยสำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (SCiRA) สจล.
• ทำแผนที่ Area Map แบบเรียลไทม์ ออกแบบป้ายรถเมล์อัจฉริยะเตือนภัยฝุ่น โดยความร่วมมือระหว่างศูนย์ SCiRA สจล. และ LG ภายใต้ชื่อ “ศูนย์รวบรวมข้อมูลติดตามมลพิษทางอากาศ” 
• พัฒนาโครงข่ายเฝ้าระวังและระบบติดตามคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ในพื้นที่ สจล. และ กทม.
• สร้างป้ายรถเมล์อัจฉริยะเตือนภัยฝุ่น พร้อมติดตั้ง KMITL AQI Station เพื่อลดความเข้มข้นฝุ่นพิษบริเวณป้ายรถเมล์ และติดตั้งโครงการสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ สจล. เพื่อวัดคุณภาพแบบเรียลไทม์
• ขยายจุดติดตั้งป้ายรถเมล์อัจฉริยะ 9 พื้นที่เสี่ยงรอบ กทม. ได้แก่ เขตบางซื่อ บางเขน บางกะปิ มีนบุรี ดินแดง พระโขนง ภาษีเจริญ ป้อมปราบศัตรูพ่าย และบางคอแหลม


ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า เพื่อให้ปัญหาฝุ่นพิษในประเทศไทยได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืนและตรงจุด สภาวิศวกร เห็นควรว่าประเทศต้องเร่งแก้ไขเร่งด่วนใน 3 ด้านสำคัญ

(1)  ด้านสุขภาพ ต้องสร้างบิ๊กเดต้าเข้าถึงข้อมูลฝุ่นเรียลไทม์ เพื่อให้คนไทยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและเท่าทันข่าวสาร สนับสนุนงานวิจัยแก้ปัญหาฝุ่น เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ แก้ปัญหาฝุ่นหนาแน่น 9 พื้นที่ ได้แก่ บางซื่อ บางเขน บางกะปิ มีนบุรี ดินแดง พระโขนง ภาษีเจริญ ป้อมปราบศัตรูพ่าย และบางคอแหลม

(2)  ด้านผังเมืองเสนอแนะให้ปรับการวางผังเมืองใหม่ ด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็น 9-10 ตารางเมตรต่อคน

(3) ด้านคมนาคม เสนอแนะให้มีการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมาย เก็บภาษีรถยนต์ปล่อยควันดำ เพื่อนำเงินภาษีที่ได้มาเยียวยารักษาผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นพิษ

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ไม่เพียงแต่หน่วยงานระดับประเทศ ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย มาตรการสำคัญ หรือกระทั่งสนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนางานวิจัยหรือเทคโนโลยีในแก้ไขปัญหาดังกล่าวในภาพใหญ่แล้ว ประชาชน ก็สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาได้ อาทิ เลือกสรรนวัตกรรมป้องกันฝุ่น หรือติดตามการรายงานผลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงหมั่นควรดูแลสุขภาพของตน และบุคคลรอบข้างที่ภูมิต้านทานต่ำอยู่เสมอ โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ที่เสี่ยงได้รับผลกระทบสูง


“สภาวิศวกร” นอกเหนือจากบทบาทของการเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลมาตรฐานวิชาชีพแล้ว ยังมีนโยบายในการพัฒนาศักยภาพวิศวกรไทย ผ่านการจัดทดสอบความรู้ การอบรมมาตรฐานวิชาชีพในสาขาต่าง ๆ ตลอดจนประยุกต์ใช้องค์ความรู้ด้านวิศวกรรมเพื่อแก้ปัญหาระดับประเทศ ผ่านการวางกรอบการแก้ไขปัญหา เสนอมาตรการช่วยเหลือแก่ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังเป็นหน่วยงานที่พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำด้านวิศวกรรม ผ่านสายด่วน 1303 อย่างต่อเนื่องแล้ว

สภาวิศวกร ยังมีนโยบายยกระดับองค์ความรู้วิศวกรรมของประเทศให้เท่าทันต่อความเปลี่ยนแปลงในยุคดิสรัปชัน (Disruption) ผ่านการจัดประชุมใหญ่สามัญสภาวิศวกร ประจำปี 2564 ภายใต้พระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542โดยสมาชิกสภาวิศวกรที่สนใจ สามารถเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 9.00 – 15.00 น. ในระบบออนไลน์ Cisco Webex ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สนใจเข้าร่วมประชุมดังกล่าว สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ สภาวิศวกร ตั้งแต่วันนี้ - 8 กุมภาพันธ์ 2564 และสามารถดูรายละเอียดวิธีการลงทะเบียนได้ที่ www.coe.or.thตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2564 หรือสอบถามเพิ่มเติมที่สายด่วนสภาวิศวกร 1303 และติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหวกิจกรรมของสภาวิศวกร ได้อีก 4 ช่องทางที่ ไลน์ไอดี @coethai เฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/coethailand เว็บไซต์ www.coe.or.th และยูทูบแชลแนล “COE Thailand”
กำลังโหลดความคิดเห็น