ประธานคณะก้าวหน้า ยืนยัน กรณีออกมาวิพากษ์วิจารณ์การจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด -19 เพราะต้องการตรวจสอบการใช้เงินภาษีประชาชนของรัฐบาล อย่าดึงสถาบันมากลบเกลื่อนข้อผิดพลาด แนะเปิดเอกสารจัดซื้อวัเพื่อความโปร่งใส
ที่อาคารไทยซัมมิท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีกมีหน่วยงานรัฐแจ้งความต่อตนเอง ว่าผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 และกฎหมายอาญามาตรา 112 หลังจากที่ตนออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวัคซีนพระราชทาน ว่า ตนยืนยันว่า ความคิดเห็นดังกล่าวเป็นการสนับสนุนให้มีการเจรจาต่อรองกับผู้ผลิตวัคซีนบริษัทต่างๆ เพื่อให้ประเทศไทยมีวัคซีนใช้ให้ครอบคลุมกับประชากรให้ได้มากที่สุดและมีความรวดเร็ว
ทั้งนี้ ขอให้กำลังใจบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงต่างประเทศที่กำลังดำเนินการจัดหาวัคซีนให้กับประเทศไทย ซึ่งแม้คณะรัฐมนตรีจะจัดซื้อวัคซีนเพิ่มจากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจน ขณะเดียวกันประเทศไทยยังไม่ได้เริ่มฉีดวัคซีน ทั้งที่ประเทศอื่นได้มีการเริ่มกันไปแล้ว หากประเทศไทยจัดซื้อจัดหาวัคซีนและฉีดช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านก็จะเกิดความเสียหาย ทั้งในเรื่องการแก้ปัญหาโควิด-19 และปัญหาเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พยายามบิดเบือนประเด็นทุกครั้งที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานของรัฐบาล และยกสถาบันฯ เข้ามากลบเกลื่อนการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล ดังนั้นขอเรียกร้องให้จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเอกสารในการจัดซื้อวัคซีน เพื่อให้ให้การใช้จ่ายภาษีของประชาชนเป็นไปอย่างโปร่งใส
นอกจากนี้ นายธนาธร ยังกล่าวถึงกรณีการครอบครองเรือยอร์ชว่า ตนเองได้ทำการซื้อเรือมือสองง และจดทะเบียนอย่างถูกต้อง โดยเรื่องนี้มีความชัดเจนว่า มีการวางเพลิงให้เรือเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งปรากฎตามเอกสารหลักฐานที่ระบุชัด เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเอง จึงไม่อยากแจ้งความให้ดำเนินคดี แต่ยังสงสัยทำไมมีสื่อบางสำนักข่าวนำข่าวไปลง จึงมีคำถามว่ารู้ได้อย่างไร เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง อีกทั้งเรือลำนี้ยังได้มีการแสดงบัญชีทรัพย์สินอย่างถูกต้องสามารถตรวจสอบได้ ยืนยันว่าไม่ได้ครอบครองโดยผิดกฎหมาย
เมื่อถามถึงกรณี นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชายของตนเอง ที่ปรากฎเป็นข่าวว่า จ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จำนวน 20 ล้านบาทนั้น นายธนาธร ระบุเพียงว่า น้องชายตนเองได้มีเอกสารชี้แจงมาแล้ว เรื่องนี้เชื่อว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจที่พยายามกดดันตนเองให้หยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่พวกเราไม่ยอมแพ้ ขวัญกำลังใจพวกเรายังดี ขอยืนยันว่าจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลต่อไปอย่างเข้มแข็ง และขอขอบคุณกำลังใจจากประชาชนทุกคน