นายกรัฐมนตรี ย้ำไม่ปิดกั้นภาคเอกชนจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ต้องผ่านการตรวจมาตรฐานจาก อย.ทุกแหล่งที่มา เพื่อความปลอดภัย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีแบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ สัปดาห์ที่ 3 ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค 19
โดยก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวระหว่างเยี่ยมชมผลงานวิจัยนวัตกรรม เพื่อรองรับสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นผลงานวิจัยที่ได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติ และ รางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้นประจำปีงบประมาณ 2564 ว่า แม้ อย.จะรับรองวัคซีน จากบริษัท AstraZeneca แล้ว รวมทั้ง บริษัท siam bioscience จะมีความพร้อมรองรับการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วก็ตาม แต่ขณะนี้ ยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนมา โดยจะเข้ามาประมาณเดือนมิถุนายน ดังนั้น ระหว่างนี้ จะต้องเตรียมการรองรับ และ พิจารณาวัคซีนจากหลายแหล่ง โดยจะไม่มีการผูกขาด และ ยังต้องกำหนดให้เป็นสินค้าควบคุม ใช้ฉีดในสถานการณ์การฉุกเฉิน หรือ ช่วงการระบาดเท่านั้น โดยรัฐบาลจะดูแลและจัดหาวัคซีนให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ปิดกั้นภาคเอกชน หากจะนำเข้ามา ก็ต้องผ่านการับรองจาก อย.เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมโครงการฮาวทูแยก – แยกอย่างไรไม่ให้ติดเชื้อ เพื่อรับมอบถังขยะสีแดงจำนวน 300 ใบ และ ถุงขยะสีแดง 35,000ใบ สำหรับขยะมูลฝอยติดเชื้อ เพื่อส่งให้กระทรวงมหาดไทย และ สำนักนายกรัฐมนตรี นำไปใช้ในพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมกล่าวว่า เป็นห่วงบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องสัมผัสกับขยะติดเชื้อ และ ขอความร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่น ในการบริหารจัดการขยะติดเชื้อให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งวันนี้ขยะโคโรนามีมากอยู่แล้ว อย่าสร้างขยะสังคมเพิ่มขึ้นอีก
ส่วนการผ่อนปรนมาตรการเข้มงวดในพื้นที่เสี่ยง นายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า มีการพิจารณาเป็นรายวันอยู่แล้ว