การท่าเรือแห่งประเทศไทย ตรวจสอบคุณภาพอากาศบริเวณพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) และท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) อย่างต่อเนื่อง พร้อมออกมาตรการป้องกัน ดูแลคุณภาพอากาศ และเร่งรณรงค์ “ล็อคสลักตู้สินค้า”เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน
เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) เปิดเผยว่า กทท. ได้ดำเนินการตามมาตรการลดฝุ่นละออง PM 2.5 ในบริเวณพื้นที่ ท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) และท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากค่าฝุ่นละอองในพื้นที่การปฏิบัติงานอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และจะยังดำเนินมาตรการดังกล่าวอย่างเข้มข้น และสม่ำเสมอในการจัดเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองในพื้นที่ปฏิบัติงาน
กทท.มีมาตรการต่างๆ ได้แก่ การดับเครื่องยนต์เมื่อไม่ใช้งาน ,ตรวจสภาพและซ่อมบำรุงรักษาเครื่องมือทุ่นแรงทุกประเภทให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ,ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูดฝุ่นและล้างถนนอย่างสม่ำเสมอ ,ฉีดพ่นละอองน้ำด้วยเครื่องพ่นละอองน้ำแรงดันสูง ป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองในพื้นที่ปฏิบัติงานและชุมชนโดยรอบพื้นที่
จัดรถสวัสดิการรับ-ส่งพนักงาน เพื่อลดปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และติดตั้งระบบพ่นละอองน้ำบริเวณประตูตรวจสอบสินค้าขาเข้า-ออก ของ ทลฉ.
นอกจากนี้ กทท. เร่งรณรงค์ด้านความปลอดภัยในการใช้รถและถนน โดยขอความร่วมมือจากผู้ใช้บริการทั้ง ทกท. และ ทลฉ. ในกิจกรรม “รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ล็อคสลักนิรภัย ปลอดภัยทุกเส้นทาง” โดยรถบรรทุกที่ผ่านเข้า-ออก พื้นที่ท่าเรือ ต้องล็อคสลักตู้สินค้าทุกคัน เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถและถนนร่วมกัน สามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ รวมทั้งได้ประสานกรมการขนส่งทางบก จัดส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการตรวจวัดควันดำรถบรรทุกที่เข้ามาขนส่งสินค้าในเขต ทกท. เป็นประจำทุกปี
การดำเนินมาตรการต่างๆ ดังกล่าว ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของพนักงาน ชุมชน และสร้างความมั่นใจให้ประชาชนทั่วไปได้มั่นใจว่า การดำเนินการของ กทท. ได้มาตรฐาน และช่วยลดการเกิดมลภาวะ
