ผบ.ทบ.ชี้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นจุดศูนย์รวม เป็นหน้าที่ “ทหาร-คนไทย” ต้องรักษาไว้ให้มั่นคง / ปัดตอบแนวคิดตั้ง”สาธารณรัฐ”ลั่นไม่รู้จักคำนี้ วอนคนไทยอย่าทำร้ายกัน–ทำร้ายประเทศ ปฏิเสธให้ความเห็น ม.112 แก้ปัญหาก้าวล่วงได้จริงหรือไม่
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.นี้ ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ( นขต.ทบ.) ถึงสถานการณ์บ้านเมืองหลังพนักงานสอบสวนใช้ มาตรา 112 ดำเนินคดีกับผู้ที่หมิ่นสถาบันว่า เป็นเรื่องของกฎหมาย ตนไม่ใช่นักกฎหมาย แต่เป็นนักการทหาร มีหน้าที่ป้องกันประเทศ และช่วยเหลือประชาชน รวมถึงเทิดทูนสถาบัน ทั้งนี้ทหารกับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งที่อยู่คู่กันตั้งแต่ก่อตั้งประเทศนี้มา พระมหากษัตริย์คือผู้นำจอมทัพไทย และก็รบรา ป้องกันอริราชศัตรู สร้างอาณาเขต สร้างความมั่นคงให้แผ่นดินนี้ จนพวกเรามานั่งอยู่ตรงนี้ เรามีสิทธิ์ มีงานทำ มีบ้านอยู่ มีความสุขอยู่บนแผ่นดิน เนื่องจากพระมหากษัตริย์ตั้งแต่ในอดีตที่ได้รวมชายไทยในอดีต ซึ่งต้องทำหน้าที่ทหาร รักษาแผ่นดิน และความมั่นคงให้เราอยู่จนมาถึงทุกวันนี้ รวมถึงคนอื่นจากแผ่นดินอื่น ศาสนาอื่นมาอาศัยอยู่ร่วมกัน
“เพราะฉะนั้นพระมหากรุณาธิคุณนั้นจึงยิ่งใหญ่ไพศาล และมหาศาลเหลือเกิน หลายร้อยปีมาแล้ว ในส่วนของทหารจึงเป็นผู้ที่ต้องถวายความจงรักภักดี ผู้ที่ต้องมีความกตัญญูเป็นเลิศต่อผืนแผ่นดินไทย ที่จะต้องรักษาความมั่นคงที่บรรพชนรักษาและทำมาให้แผ่นดินนี้มีความสงบร่มเย็น ภายใต้พระบารมีและบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์เจ้า และดูแลช่วยเหลือประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุข เมื่อประเทศอยู่ร่มเย็นเป็นสุขทุกอย่างก็ดี เพราะฉะนั้นเราควรช่วยรักษาความสงบ ร่มเย็นให้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ และทำมาหากินได้ ยิ่งในสภาพการณ์ตอนนี้คือต้องช่วยเหลือกัน และบริโภคกันภายในประเทศ อย่าทำร้ายกัน อย่าทำร้ายประเทศชาติ อย่าทำร้ายประชาชน”
เมื่อถามว่า พูดได้เลยว่าแนวคิดเรื่องการเกิดสาธารณรัฐจึงเป็นไปไม่ได้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า “ไม่ทราบครับ เรื่องนี้ไม่มีในหัวผม “ ถามย้ำว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ใข่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า “ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่รู้จักคำนี้ “ เมื่อถามต่อไปว่า ที่บอกว่าต้องเทิดทูนสถาบัน เราต้องมีการปกป้องสถาบันไม่ให้มีใครก้าวล่วงใช่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า “ทุกคนมีหน้าที่ปกป้อง ใครมีหน้าที่ด้านไหนก็ทำไปในด้านนั้น ผมก็พูดได้แค่ว่าทุกคนมีหน้าที่กันหมด เมื่อจุดมุ่งหมายคือประชาชนร่มเย็นเป็นสุข และการที่ประชาชน ประเทศชาติจะร่มเย็นเป็นสุขได้นั้น สถาบันหลักเป็นจุดศูนย์รวมต้องอยู่อย่างมั่นคง ทุกคนจึงมีหน้าที่ คนถือกฎหมายก็มีหน้าที่เช่นกัน “
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงสถานการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุมยังกล่าวถึงสถาบันฯ อยู่หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า คงไม่ตอบเรื่องการเมือง ตนไม่เชี่ยวชาญเรื่องการเมือง เมื่อถามต่อว่า ช่วงรอยต่อปีใหม่เกรงจะมีมือที่สามฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์หรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ช่วงหยุดยาวหน่วยงานความมั่นคงก็ติดตามสถานการณ์อยู่แล้ว ทุกคนเสียสละอุทิศตน เพียงแต่เราไม่รู้ การที่บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุขในขณะนี้เราก็ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่เหล่านั้น เพราะทำให้บ้านเมืองสงบ ร่มเย็น ไม่มีภัยอันตรายใดๆ เกิดขึ้นกับประชาชน ในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ สื่อถือว่ามีความสำคัญ เพราะตนเองพูด คนก็ไม่เชื่อ สื่อจะเขียนให้คนรักกัน ให้ประเทศสงบเขียนได้ แต่ถ้าเขียนบนความคิดให้มันไม่ดี มันก็ไม่ดี ดังนั้นสื่อต้องคิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก
ผบ.ทบ. ยังกล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงสถานการณ์ขณะนี้ว่า ไม่มีคำว่าเหนื่อย หรือหนักใจ ในเมื่อเราอุทิศตน และตั้งใจมาเป็นทหาร ถ้าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะที่ทำเพื่อประชาชน ก็ทำไปเลย และ ไม่เหนื่อยเพราะเราเป็นทหาร เมื่อหมดภาระหน้าที่ไป ก็จบ ก็เป็นหน้าที่คนต่อไปที่จะเข้ามาทำต่อ