xs
xsm
sm
md
lg

"อนุทิน" ย้ำไทยสำเร็จสู้โควิด-19 แต่โรคยังไม่ยุติต้อง”นิว นอร์มอล”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองนายกฯและรัฐมนตรีสาธารณสุข ย้ำกลางเวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ระบุไทยประสบความสำเร็จควบคุมโรคโควิด-19 จนได้รับคำชื่นชมจากองค์การอนามัยโลก แต่สงครามโรคยังไม่ยุติ ต้องปรับตัวใช้ชีวิตแบบ “นิว นอร์มอล”เพื่อความไม่ประมาท

ที่หอประชุมใหญ่ ทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ หรือ คจ.สช. สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ หรือ สช. และภาคีเครือข่าย ได้จัดงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 13 ประจำปี 2563 ภายใต้ประเด็นหลัก “พลังพลเมืองตื่นรู้ ... สู้วิกฤตสุขภาพ” พร้อมทั้งมีการปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “พลังพลเมืองตื่นรู้ ... สู้วิกฤตสุขภาพ” โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ


โดยนายอนุทิน กล่าวปาฐกถาพิเศษช่วงหนึ่งว่า โควิด-19 เป็นโรคติดต่อร้ายแรงและเป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ที่รุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี โดยทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อกว่า 73 ล้านคน แต่ประเทศไทยพบผู้ป่วยประมาณ 4,200 คนเท่านั้น และหากนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2563 เป็นต้นมา ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพียง 18 คน ขณะที่อีก 1,000 คน ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ แม้ในช่วงแรกประเทศไทยจะถูกจับตามองว่าอาจเป็นศูนย์กลางการระบาดต่อจากประเทศจีน แต่ด้วยมาตรการที่จริงจังของรัฐ ศักยภาพของระบบสาธารณสุขและความร่วมมือของคนไทย ทำให้ประเทศยืนหยัดต่อสู้กับโควิด-19 มาได้จนได้รับคำชื่นชมจากองค์การอนามัยโลกและนานาชาติ ความสำเร็จนี้เกิดจากความสามารถของแพทย์ พยาบาล บุคลากรด้านสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชน แสดงให้เห็นถึงการทำงานอย่างมีเอกภาพ รวดเร็วและมีคุณภาพ ตั้งแต่หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ลงไปถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน อสม. และภาคประชาสังคม


อย่างไรก็ตาม เรายังต้องผนึกกำลังกันให้เข้มแข็งมากขึ้น เพราะต่อไปในอนาคตจะมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคหลายประการ เพื่อให้การประกอบธุรกิจและเศรษฐกิจดำเนินไปได้ โดยขอเน้นย้ำว่าการดำเนินงานเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพ และการยับยั้งควบคุมโรคจำเป็นต้องทำควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจ โดยการพัฒนาระบบสาธารณสุขนั้น ไม่ใช่ความสูญเสียหรือความสิ้นเปลือง แต่เป็นการลงทุนที่สำคัญในระยะยาวเพื่อพัฒนาความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และสงครามโรคครั้งนี้ยังไม่ยุติ การปรับตัวใช้ชีวิตแบบนิว นอร์มอลจึงเป็นสิ่งจำเป็น การเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งการลดการอยู่ในที่ที่มีคนจำนวนมากเป็นเวลานาน จะเป็นวัคซีนทางสังคมที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการระบาดระลอกใหม่ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น