ชาวพิจิตร แตกตื่นโควิด19 นักเที่ยวราตรีแห่ตรวจหาเชื้อแน่นโรงพยาบาล ผลกระทบทันตาเห็นเศรษฐกิจทรุด
วันที่ 3 ธ.ค. 63 ความคืบหน้าจากการที่ ในพื้นที่จังหวัดพิจิตรพบผู้ติดเชื้อโควิด19 เป็นรายแรก ซึ่งเป็นหญิงสาววัย 25 ปี ที่ลักลอบเข้าประเทศมาจากประเทศเทียนมาร์ จากนั้นกลับมาหอที่พักซึ่งเป็นห้องเช่าอยู่ในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร จากนั้นในช่วงระหว่างวันที่ 28-29-30 พ.ย.63 ได้ออกเที่ยวกลางคืนกลับเพื่อนๆ อีก 3 คน โดยไปที่ ผับเบิร์ดบาร์ และ ผับ คร๊อกโคไดล์ ร๊อค พิจิตร
ล่าสุดวันนี้นักเที่ยวยามราตรีที่เป็นวัยรุ่นและวัยทำงานที่ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง ในช่วงวันและเวลาดังกล่าว เมื่อทราบข่าวต่างขวัญผวา วิตก ว่าตนเองจะได้รับเชื้อโควิด 19 ด้วยหรือเปล่า จึงแห่พากันไปที่ รพ.พิจิตร ตั้งแต่เมื่อเย็นวันวานที่ผ่านมา หลังจากที่ ผู้ว่าฯพิจิตร แถลงข่าวทำให้ รพ.พิจิตร ต้องระดมทีมแพทย์และพยาบาลมาดำเนินการสอบประวัติและคัดกรองแบ่งกลุ่มตามหลักวิชาการแพทย์ ซึ่งก็พบว่านักท่องเที่ยวยามราตรีมีทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน วัยเรียน จำนวนเกือบ 500 คนที่ แตกตื่นมาขอตรวจ จึงทำให้ รพ.พิจิตร เนืองแน่นไปด้วยผู้มาขอใช้บริการที่เป็นทั้งผู้ป่วยโรคทั่วไป ผู้ป่วยฉุกเฉิน และ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ดังกล่าว
ในส่วนของเศรษฐกิจและการค้าขาย ในเขตตลาดเมืองพิจิตร ทันทีที่หลังจากเมื่อวานเย็นที่ผ่านมา ผู้ว่าฯพิจิตร มีการแถลงข่าวว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 1 ราย ผู้สัมผัสใกล้ชิด อีก 4 ราย รวมถึงนักเที่ยวสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง ในช่วงวันดังกล่าว ซึ่งน่าจะมีจำนวนหลายร้อยคน ทันทีที่ข่าวได้แพร่สะพัดออกไป เทศกาลงานงิ้วและถนนคนเดินหรือเทสกาลหมูสะเต๊ะอร่อยหอยทอดรสเด็ด ที่จัดให้เป็น Street Food บริเวณถนนกลางตลาดเทศบาลเมืองพิจิตร ที่จัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 1-10 ธ.ค. 2563 ก็ปรากฏว่าจากที่เคยคึกคักถึงขนาดที่ว่าต้องแย่งโต๊ะ-เก้าอี้กันนั่ง ทันทีที่ข่าวแพร่สะพัดเมื่อคืนที่ผ่านมา นักชิม นักช้อป นักเที่ยว ก็หายไปเกือบ 80% ทำเอาบรรยากาศเงียบเหงา
นอกจากนี้ศูนย์อาหารของตลาดเทศบาล 2 ที่มีแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ขายข้าวมันไก่ อาหารตามสั่งและอื่นๆ ก็พลอยได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจอย่างรุนแรง บรรยากาศเงียบเหงาจนแทบไม่มีผู้คนออกมานั่งกินอาหาร แต่ก็ยังพอมีบ้างที่มาซื้อใส่ถุงนำกลับไปกินที่บ้าน หรือใช้บริการสั่งซื้อผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ ดังกล่าว
