นักท่องเที่ยวแห่ร่วมกิจกรรม "Road Trip Season of North เส้นทาง สายหมอก ดอกไม้ "อุทัยธานี-กำแพงเพชร-สุโขทัย“ออกไปช่วยเมืองไทย ออกไปเที่ยวเมืองไทย”
เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2563 นางสาว สุชารัตน์ แสงอรุณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานในพิธีปล่อยตัวขบวนคาราวานท่องเที่ยว ตามโครงการ “Road Trip Season of North เส้นทางชมธรรมชาติ สายหมอก ดอกไม้” อุทัยธานี-กำแพงเพชร-สุโขทัย ระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน 2563 โดยมีนายพูลผล แพทอง ซีอีโอ เที่ยวไทย ฯลฯ พร้อมด้วยตัวแทนผู้สนับสนุนกิจกรรม อาทิ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัดมหาชน ,ไฮเออร์ ,ทีทีแอนด์ดี,อาร์ทอป มีเดีย , ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวต้นแบบ ร่วมกิจกรรมขับรถท่องเที่ยว 30 คัน กว่า 80 คน ทำให้บรรยากาศบริเวณหน้าสำนักงาน ททท. อุทัยธานี เต็มไปด้วยความคึกคักและสนุกสนาน
โดยนางสาวสุชารัตน์ กล่าวว่า ในนามททท.สำนักงานอุทัยธานี มีความยินดีและขอต้อนรับคณะนักท่องเที่ยวที่ร่วมขับรถยนต์เข้ามาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งทราบว่า มีนักท่องเที่ยวหลายท่านที่เดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ล่วงหน้าและได้ไปท่องเที่ยวและช้อปปิ้งกระจายรายได้สู่ชุมชุน อย่างหลากหลาย โอกาสนี้ ขอให้นักท่องเที่ยว ที่เข้าร่วมกิจกรรมกับทาง “เที่ยวไทย ฯลฯ” เดินทางท่องเที่ยวอย่างมีความสุขและปลอดภัยตลอดเส้นทาง พร้อมกันนี้ ขอให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปบอกเล่าและประชาสัมพันธ์ต่อไป โดยหวังว่า ททท. สำนักงานอุทัยธานี ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนอีกในโอกาสต่อไปด้วย
สำหรับจุดเช็คอินแรกที่คณะคาราวาน “Season of North” ได้เข้าเยี่ยมชม คือ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ โครงการในพระราชดำริสมเด็จพระพันปีหลวง ณ บ้านอุดมทรัพย์ ตำบลหินดาด กิ่งอำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร โดยมีบ้านซึ่งเป็นชาวเขา เผ่าเมี่ยน มาคอยต้อนรับพร้อมบริการขนมพื้นถิ่น กล้วยน้ำว้า และน้ำมะพร้าวเย็นชื่นใจอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังนำสินค้าแปรรูปจากผ้าปักทอของชนเผ่าต่างๆ ที่สวยงามมาจำหน่ายในราคาย่อมเยาอีกด้วย
จากนั้น คณะคาราวาน ได้ออกเดินทางไปที่ อุทยานแห่งชาติคลองลาน อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อรับประทานอาหาร และสัมผัสความสวยงามของน้ำตกคลองลาน อย่างใกล้ชิด ซึ่งถือเป็นน้ำตกที่ใสสะอาดไหลมาจากภูเขาของป่าคลองลานอันสมบูรณ์ตามธรรมชาติ สร้างความเพลิดเพลินให้นักเที่ยวเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ คณะคาราวาน ยังได้เดินทางต่อไปที่อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร โดยมีรถรางและเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ
นำท่องเที่ยวและชมโบราณสถานในบริเวณอุทยานฯ ทั้ง วัดพระสี่อิริยาบถ และวัดช้างล้อม เป็นต้น ทั้งนี้อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เปิดทำการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
จากนั้นคณะคาราวานท่องเที่ยวได้เดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งกิจกรรมไฮไลท์สำคัญ คือการเวียนเทียน ที่วัดช้างล้อม เพื่อความเป็นสิริมงคลตามศรัทธาวิถีพุทธ โดยจุดเด่นของวัดช้างล้อม คือเจดีย์ทรงลังกา หรือระฆังคว่ำ มีช้างล้อมรอบ สูงสองชั้น ที่ยังคงสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ และรอบฐานประกอบด้วยช้างจำนวน 32 เชือก และยังมีฐานกำแพงแก้วก่อด้วยอิฐล้อมรอบ โดยนักท่องเที่ยวมึการเว้นระยะห่างตามมาตรการ New Normal ตามหลัก Social Distancing ของกระทรวงสาธารณสุขด้วย ก่อนจะกลับมาร่วมกิจกรรมในงานเลี้ยงและพักผ่อน ที่โรงแรมเลเจนดา โดยมีคณะผู้บริหารจากททท. สำนักงานอุทัยธานี และสุโขทัย ให้การต้อนรับ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปความสนุกสนาน
สำหรับกิจกรรมที่สำคัญในวันที่สอง คือการนั่งรถคอกหมูไปใส่บาตรรับอรุณตอนเช้าที่วัดตระพังทอง การนั่งรถรางชมโบราณสถานที่อุทยานอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มีทั้งพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช วัดมหาธาตุ วัดศรีสวาย
วัดตระพังเงิน วัดสระศรี วัดชนะสงคราม เป็นต้น จากนั้น ยังได้เข้าสักการะพระอจนะ พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ภายในวัดศรีชุม ตำนานพระพุทธรูปพูดได้ เพื่อเป็นสิริมงคล
ส่วนอาหารกลางวันมื้อพิเศษของวันนี้คือครัวสุโข สนามบินสุโขทัย พร้อมจับจ่ายซื้อสินค้าในโครงการเกษตรอินทรีย์อย่างเต็มที่ ก่อนจะออกเดินทางต่อไปที่ร้านสุนทรีไหมไทย ชมวิถีชาวบ้านไทยพวน และเลือกซื้อของฝากผ้าทอสุโขทัย (ผ้าซิ่นตีนจกไทยพวน)ที่มีเอกลักษณ์สวยงามอย่างมาก
จากนั้นคณะได้ออกเดินทางเข้าสู่บ้านนาต้นจั่นอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและที่พักแบบโฮมสเตย์ โดยคณะนักท่องเที่ยว ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากป้าเสงี่ยม แสวงลาภ ประธานกลุ่มโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น และชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมทั้งการรับประทานอาหารพื้นถื่นแบบขันโตก การบายศรีสู่ขวัญ ชมการแสดงพื้นบ้าน ทั้งร้องลิเกก้อม และยังได้ร่วมรำวง อย่างสนุกสนานและเป็นกันเองกับนักท่องเที่ยวต้นแบบทุกคน
ทั้งนี้คุณ ป้าเสงี่ยม ได้บอกเล่าให้คณะนักท่องเที่ยวฟังด้วยว่า กว่าจะมาถึงการเป็น”โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น” ที่มีชื่อเสียงเรื่องคุณภาพ จนถูกจองเต็มจนถึงเดือนมีนาคม ปี 2564 นั้น ตนเองได้ผ่านการบุกเบิกมาด้วยความยากลำบาก บางวันต้องนอนหลับทั้งน้ำตา เพราะเหนื่อยทั้งกายและใจเพื่อให้ชาวบ้านในชุมชนและนักท่องเที่ยวทั่วไปยอมรับเพราะเราไม่มีทะเล ไม่มีภูเขาไม่มีสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเลย แต่ป้าได้ทำให้เขาเห็นว่า เรามีธรรมชาติ มีทุ่งนา มีอากาศบริสุทธ์ และมีภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นจุดขายสำคัญ ทำให้ในที่สุด บ้านนาต้นจั่น เป็นโฮมสตย์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ได้รับวางวัลจากภาครัฐทั้ง ททท. และกรมการท่องเที่ยว และอื่นๆ เป็นจำนวนมาก ซี่งเป็นความภาคภูมิใจของชาวบ้านนาต้นจั่น และยืนยันจะรักษาคุณภาพอันดีงามนี้ไว้ตลอดไป”
หลังจากฟังเรื่องเล่าจากป้าเสงี่ยม ในคืนนั้น ทำให้นักท่องเที่ยวต่างกลับไปบ้านพักของตัวเอง ด้วยหัวใจปลื้มปริ่ม และนอนหลับฝันดี ที่ได้มีส่วนร่วมนการสนับสนุนโฮมเสตย์ แห่งนี้อย่างมีความสุขท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายในฤดูหนาวแรกของปีที่อุณหภูมิเฉลี่ย20 องศาเซลเซียส และไม่มีใครร้องหาเครื่องปรับอากาศ หรือเปิดแอร์แต่อย่างใด
และที่ขาดไม่ได้ คือการตื่นนอนมาช่วงเช้ามืดและนั่งรถเกษตรท่องเที่ยวอีแต๊ก ไป สัมผัสสายหมอกท่ามกลางอากาศหนาว บน จุดชมวิวห้วยต้นไฮ เพื่อชมแสงแรกของดวงอาทิตย์ที่เป็นสีทอง แผ่ขยายไปทั่วท้องทุ่งบ้านนาต้นจั่น อย่างน่าประทับใจ ก่อนจะกลับมารับประทานหารเช้า แบบขันโตกที่เจ้าของบ้านแต่ละหลัง นำมาจัดเลี้ยงให้อย่างเต็มอิ่มและอร่อยถูกใจผู้มาเยือน
เป็นการส่งท้ายของทริป “Season of North” ซี่งคณะนักท่องเที่ยว ต่างก็อดไม่ได้และเต็มใจที่จะจับจ่ายสินค้าในหมู่บ้านนาต้นจั่น ทั้งผ้าหมักโคลน ผ้าทอมือ ข้าวเปิ๊บอาหารป่า และผักผลไม้ทั้งส้มโอ มะนาว น้ำผึ้ง ส้มเขียวหวาน รสชาติดี กลับบ้านเป็นของฝากของที่ระลึกแบบไม่รู้ลืม และบ้านนาต้นจั่น จะอยู้ในความทรงจำ พร้อมบอกเล่าและประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองไทยในฐานะนักท่องเที่ยวต้นแบบต่อไป "ออกไปช่วยเมืองไทย ออกไปเที่ยวเมืองไทย “Season of North เส้นทางสายหมอกดอกไม้ อุทัยธานี กำแพงเพชร สุโขทัย” ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคเหนือสร้างสรรค์ให้
#เที่ยวไทยฯลฯ #อื่นๆอีกมากมายท้าทายให้สัมผัส #ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว #ททท.อุทัยธานี