xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดทุนไทย เกาะติดผลเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯคนที่46

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดเงิน ตลาดทุนไทย เกาะติดผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มองหากนายโจไบเดน จากพรรคเดโมแครต ชนะ จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น และสกุลเงินเอเชีย

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน -กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า บล.โนมูระ แบ่งผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกเป็น 3 สถานการณ์ (Scenario) เพื่อประเมินผลกระทบต่อตลาดหุ้นเอเชีย (AEJ : Asia Ex-Japan )และหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจลงทุน ในแต่ละสถานการณ์

กรณีแรก “ไบเดน” ชนะการเลือกตั้ง และครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา คาดว่า จะเป็นบวกต่อหุ้น เอเชีย เพราะนโยบายไบเดน ในเรื่องการค้า มีท่าทีประนีประนอมมากกว่า “ทรัมป์” รวมถึงการปรับขึ้นภาษีในสหรัฐฯ จะกระทบเอเชียในวงจำกัด ซึ่งกรณีนี้ หุ้นที่น่าสนใจ คือ ในกลุ่ม quality-cyclical-financial plays

2.กรณีที่ “ไบเดน”ชนะการเลือกตั้ง แต่พรรครีพับลิกัน (Republican) ยังครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา คาดว่า จะกระทบต่อการออกนโยบายต่าง ๆ และอาจทำให้ตลาดเกิดสภาวะความเสี่ยง ไม่แน่นอนสูง ( Risk Off) และกรณีสุดท้าย หาก “ทรัมป์”ชนะการเลือกตั้ง จะเป็นลบต่อจีน และเอเชียเหนือ โดยหุ้นกลุ่มที่ถือว่ายังปลอดภัย ต้องเน้นกลุ่มที่พึ่งพาตลาดภายในเป็นหลัก

ด้านนายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มองว่า ไม่ว่าสหรัฐ จะได้ใครเป็นผู้นำคนต่อไป ประเทศไทย ต้องเปิดรับทั้งคู่ ยึดยุทธศาสตร์ “เอียงจีน อ่อนตามสหรัฐฯ” คือ เปิดรับทั้งคู่ ไม่เลือกข้าง เพราะไทย ต้องค้าขายกับจีน แม้จีน ยังเป็นมหาอำนาจเบอร์ 2แต่เรื่องการค้าจีน เป็นเบอร์ 1 ของโลก ไทยจึงต้องเพิ่มการเป็นห่วงโซ่อุปทานการผลิตกับจีนให้มากขึ้น ,เปิดรับการย้ายฐานจากจีน ให้เข้ามาในไทยให้มากขึ้น เพื่อหาทางส่งออกไปสหรัฐฯ และส่งออกไปประเทศอื่น
กำลังโหลดความคิดเห็น