ทบ. พาสื่อตรวจชายแดนตาก ยืนยันพร้อมบริหารจัดการทุกพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องโควิด
พลโท สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองเสนาธิการทหารบก/โฆษกกองทัพบก แถลงถึง การบริหารจัดการการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนกองทัพบก ในโอกาสที่พาคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ในความรับผิดชอบของ กองกำลังนเรศวร โดยระบุว่ากองทัพบกได้ดำเนินการสนับสนุนรัฐบาลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยอย่างเต็มความสามารถตามนโยบายของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาล ทั้ง 6 ด้านอย่างเต็มที่ ประกอบด้วย
1. ด้านการสกัดกั้นการนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศ
2. ด้านการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในประเทศ
3. ด้านสาธารณสุขและการแพทย์
4. ด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม
5. ด้านการสื่อสารเชิงรุก
6. ด้านการช่วยเหลือประชาชนและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
ในวันนี้ กองทัพบกจะพาท่านมาดูการปฏิบัติงานที่สำคัญ ในภารกิจสกัดกั้นการนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศทางภาคพื้นดินที่ชายแดนตะวันตกติดประเทศเมียนมา ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังป้องกันชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 กองกำลังนเรศวร ด่านแรกแนวชายแดน การดำเนินการคัดกรองประชาชนผ่านเข้าออก ณ บ.วังตะเคียน ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก และการใช้มาตรการอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดผู้ลักลอบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ที่ไม่ผ่านการคัดกรองจากเจ้าหน้าที่และในพื้นที่ลึกเข้ามาในประเทศ เป็นการปฏิบัติงานของกองกำลังป้องกันชายแดนทางลึก และการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน (ชป.กร.) โดยมีชุดอาสาสมัครกิจการพลเรือน(อส.กร.) เป็นกลุ่มประชาชนอาสาสมัครเป็นผู้ช่วยในการสร้างความตระหนักรู้ การป้องกันการเผยแพร่และการป้องกันการติดเชื้อของประชาชน ตลอดจนภาพรวมของการปฏิบัติงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ทหาร, พลเรือน, ตำรวจ ภายใต้การกำกับภาพรวมของทางจังหวัดในการบริหารพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจของประเทศที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง
นโยบายเร่งด่วนที่ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกกำชับให้กองกำลังชายแดนทั่วประเทศปฏิบัติอย่างเข้มงวด รวมทั้งตัวท่านเองก็ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการทำงานของหน่วยที่นี่ จ.ตาก และที่ จ.ระนอง มาแล้วก็คือ ให้ดูแลพื้นที่ชายแดนไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายโดยไม่ผ่านการคัดกรอง ต้องช่วยกันบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนให้ปลอดภัยปลอดเชื้อด้วยมาตรการต่างๆ อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งการลาดตระเวนตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง การใช้เครื่องมือเฝ้าตรวจต่างๆ เพื่อลดภาระ
ของเจ้าหน้าที่ การติดตั้งไฟส่องสว่าง การวางเครื่องกีดขวาง โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ การสร้างให้ประชาชนรู้เท่าทัน รู้ป้องกันตนเองและติดตามการแพร่ระบาดของเชื้อ ด้วยกลไกมวลชนของกองทัพบก รวมถึงการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในทุกช่องทาง เพื่อลดความเสี่ยงที่เชื้อจะแพร่ระบาดเข้าสู่ประเทศ
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้เน้นย้ำเสมอเรื่องความปลอดภัย และการดูแลตนเองของกำลังพล เพราะปัจจุบันการปฏิบัติงานในภารกิจที่มีความเสี่ยงของโรคอุบัติใหม่ จำเป็นที่จะต้องเพิ่มความระมัดระวังและปฏิบัติตนตามหลักมาตรฐานสาธารณสุขเป็นสำคัญ
ท้ายนี้ อยากเรียนพี่น้องประชาชนว่า กองทัพบกได้ทุ่มเทในการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่านการคัดกรองในทุกพื้นที่ชายแดนทั่วประเทศ รวมทั้งให้การสนับสนุนรัฐบาลตามแนวทางป้องกันโควิดของ ศบค.อย่างเต็มศักยภาพ ส่วนการดูแลช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่เพื่อบรรเทาผลกระทบในช่วงสถานการณ์โควิด กองทัพบกก็จะทำอย่างต่อเนื่องต่อไปตามเจตนารมณ์ที่ยึดถือมาตลอดที่ว่า “กองทัพบกเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส”
.....