xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.ชี้ "นิพนธ์" ผิด ม.157 ละเว้นปฎิบัติหน้าที่ ส่งผลให้เสียหายต่อรัฐ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ป.ป.ช.แจงข้อกล่าวหา "นิพนธ์" ผิดกฎหมายอาญามาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. แถลงข่าวกรณีที่ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.สงขลา ละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริง พยานหลักฐานรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2556 อบจ.สงขลา ได้ประกาศจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ชนิด 10 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซล มีกำลังไม่น้อยกว่า 200 แรงม้า จำนวน 2 คัน งบประมาณ 51,000,000 บาท โดยบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ที่เสนอราคาต่ำสุดเป็นผู้ชนะการประมูล โดยเสนอราคา 50,850,000 บาท นายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา ในขณะนั้น จึงได้ทำสัญญาซื้อขายรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ดังกล่าวจากบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด

ทั้งนี้ ต่อมาวันที่ 28 สิงหาคม 2556 นายนิพนธ์ บุญญามณี ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา และในวันที่ 8 ตุลาคม 2556 บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ได้แจ้งส่งมอบรถทั้งสองคัน ซึ่งคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจรับรถทั้งสองคันแล้วเห็นว่า มีปริมาณและคุณภาพถูกต้องครบถ้วน จึงรายงานผลการตรวจรับให้ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และได้ลงนามรับทราบผลการตรวจรับดังกล่าวแล้ว

ดังนั้น การตรวจรับรถทั้งสองคันจึงถูกต้องครบถ้วนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 ข้อ 64 (4) และถือว่าบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ได้ส่งมอบรถทั้งสองคันครบถ้วนตั้งแต่วันที่ได้มีการตรวจรับรถสองคันไว้แล้ว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่พัสดุได้แจ้งผลการตรวจรับรถทั้งสองคันต่อนายนิพนธ์ ให้ทราบและลงนามในหนังสือถึงสำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา เพื่อมอบอำนาจให้บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด จดทะเบียนรถทั้งสองคันให้ อบจ.สงขลา

อย่างไรก็ตาม นายนิพนธ์ กลับละเว้นไม่ลงนามในหนังสือดังกล่าว อีกทั้งยังได้เขียนสั่งการในด้านหลังของรายงานผลการตรวจรับรถทั้งสองคันว่า เห็นควรให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุทดลองระบบต่างๆ ของรถดังกล่าวอีก ทั้งที่คณะกรรมการตรวจรับพัสดุไม่ได้รายงานว่า รถทั้งสองคันไม่เป็นตามรูปแบบ รายละเอียด และข้อกำหนดในสัญญา หรือมีเหตุอื่นใดที่จะเป็นเหตุให้ต้องสั่งการดังกล่าว

โดยต่อมาบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ได้แจ้งให้ อบจ.สงขลาส่งมอบเอกสารเพื่อไปดำเนินการจดทะเบียนรถกับกรมการขนส่งทางบก แต่นายนิพนธ์ ก็ไม่ดำเนินการ ทั้งยังแจ้งให้บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ทดสอบระบบต่างๆ ตามที่สั่งการไว้ จึงจะมีการจดทะเบียนรถ ซึ่งบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ได้นำรถทั้งสองคันไปทดสอบ ผลปรากฏว่าอุปกรณ์ที่ติดตั้งมากับรถมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ตามสัญญา

หลังจากนั้น วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 นายนิพนธ์ ได้มอบอำนาจให้บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ดำเนินการจดทะเบียนรถทั้งสองคันให้แก่ อบจ.สงขลา ซึ่ง อบจ.สงขลาได้รับรถทั้งสองคันไปใช้งานแล้ว จากนั้นวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 เจ้าหน้าที่ได้เสนอเรื่องให้นายนิพนธ์ เบิกจ่ายเงินค่ารถทั้งสองคันให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด แต่นายนิพนธ์ กลับละเว้นไม่จ่ายเงินตามสัญญา บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด จึงได้ร้องเรียนกับสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 15 หรือ สตง. และจังหวัดสงขลา โดยทั้งสองหน่วยงานได้แจ้ง อบจ.สงขลาว่า เมื่อกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจรับรถทั้งสองคันไว้แล้ว อีกทั้งยังได้นำรถทั้งสองคันไปใช้ในราชการอย่างต่อเนื่อง และจดทะเบียนเป็นกรรมสิทธิ์ของ อบจ.สงขลาแล้ว

ดังนั้น การที่ อบจ.สงขลายังไม่เบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้ขายจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยงานบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 ข้อ 64 (4) และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 ข้อ 64 และเห็นว่าการเบิกจ่ายเงินล่าช้าดังกล่าว ไม่มีเหตุผลอันควรยกขึ้นอ้างกับผู้ขายได้ตามกฎหมาย และอาจถูกผู้ขายฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ จึงขอให้ อบจ.สงขลา พิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม นายนิพนธ์ ก็ยังไม่เบิกจ่ายเงินให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด โดยอ้างว่าการเสนอราคากระทำโดยมีเจตนาไม่สุจริตมีพฤติกรรมสมยอมกันในการเข้าเสนอราคา และทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรม บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด จึงยื่นฟ้อง อบจ.สงขลา ต่อศาลปกครอง โดยศาลปกครองสงขลามีคำพิพากษาให้ อบจ.สงขลา ชำระเงินค่ารถทั้งสองคันพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี รวมเป็นเงินจำนวน 52,062,041 บาท ให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่า การกระทำของ นายนิพนธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา มีมูลความผิดฐานเป็นความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีพฤติการณ์การกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย หรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 มาตรา 79 พร้อมทั้งให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐานไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลที่มีเขตอำนาจ ซึ่งในที่นี้หมายถึงศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ นายนิวัติไชย ยังกล่าวถึงประเด็นเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งของนายนิพนธ์ในฐานะรมช.มหาดไทยจะมีผลให้ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวหรือไม่ว่า กรณีนี้ไม่ได้เป็นการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้น จึงต้องรอให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบมีคำสั่งประทับรับฟ้องก่อน แต่นายนิพนธ์ต้องยุติการทำหน้าที่หรือไม่ ถึงตอนนั้นจะเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องหารือร่วมกันอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น