ก้าวไกล จี้ ยกเลิก ม.116 หยุดคุกคามประชาชน

พรรคก้าวไกล จี้ยกเลิกมาตรา 116 ชี้ ถูกใช้เป็นเครื่องมือของรัฐบาล เพื่อคุกคามประชาชน

ที่รัฐสภา นายวรภพ วิริยะโรจน์ พร้อมด้วยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงข่าวขอให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เพื่อไม่ให้มาตรานี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการคุกคามประชาชนอีกต่อไป

โดยนายวรภพ กล่าวว่า โทษอาญามาตรา 116 หรือโทษของการยุยงปลุกปั่น ได้กลายเป็นกฎหมายที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยเฉพาะในรัฐบาล คสช.เป็นต้นมา เนื่องจากเป็นข้ออกฎหมายที่ตีความได้กว้าง ด้วยการใช้คำว่า “กระด้างกระเดื่อง” และ “เพื่อให้ช่วงละเมิดกฎหมาย” ที่ผ่านมารัฐบาลใช้มาตรา 116 ฟ้องประชาชนที่ออกมาแสดงความเห็น หรือจัดกิจกรรมทางการเมืองที่ต่อต้านรัฐบาลหลายสิบคดี เช่นกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นักศึกษา ผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ

ทั้งนี้ แม้ศาลจะยกฟ้อง แต่รัฐบาลยังใช้มาตรานี้อย่างต่อเนื่องเพราะเป็นโทษอาญาหมวดความมั่นคง มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิด 7 ปี ทำให้ตำรวจสามารถสามารถขอหมายศาลเพื่อออกหมายจับได้ โดยไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียกก่อน และทำให้ศาลเรียกเงินประกันตัวสูงหลักแสนบาท ซึ่งเป้าหมายของกระบวนการนี้คือการใช้กฎหมายข่มขู่ คุกคามประชาชน

นอกจากนี้ ยังเห็นว่าข้อกฎหมายของมาตรา 116 ตีความได้กว้างจนเกินเจตนารมณ์ของโทษอาญา  จึงขอยื่นแก้ไขเพื่อให้ข้อกฎหมายมีความชัดเจนและยุติการใช้มาตรา 116 เป็นเครื่องมือของทุกรัฐบาล  โดยต้องการเปลี่ยนข้อกฎหมายที่คลุมเครือ เช่น เพื่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง และ เพื่อให้ล่วงละเมิดกฎหมาย ให้กลายเป็นคำเฉพาะ เพื่อไม่ให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรถึงขนาดมีการทำร้ายร่างกายหรือก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตผู้อื่นหรือประชาชนหรือทำลายทรัพย์สินของราชการหรือสาธารณะ และลดโทษจำคุกจาก 7 ปีเหลือ 3 ปีให้เหมาะสมกับโทษอาญาอื่นๆ  และไม่ให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองอีกต่อ