รัฐมนตรีอุตสาหกรรม ปลื้ม แผนลงทุน”เกรท วอลล์” กระตุ้นตลาดยานยนต์ไทยคึกคัก หลังเตรียมปรับปรุงโรงงานใหม่ปลายปีนี้ เริ่มผลิตต้นปี 2564 คาดเกิดการจ้างงาน 3,435 คน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังให้ นายจาง เจียหมิง ประธานกลุ่มบริษัท เกรท วอลล์ มอร์เตอร์ส ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย เข้าพบว่า ได้หารือนโยบายส่งเสริมการผลิตและสิทธิประโยชน์ของรถยนต์ xEV หรือ ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า มาตรการกระตุ้นการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อสร้างอุปทาน การเตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน การจัดทำมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนการบริหารจัดการซากรถและแบตเตอรี่ใช้แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน เกี่ยวกับการส่งเสริมลงทุนเพิ่มเติมสำหรับกิจการผลิต xEV
สำหรับแผนลงทุนของเกรท วอลล์ฯในประเทศไทย มีแผนการลงทุน เช่น แผนการผลิตรถยนต์ ที่คาดว่า จะเริ่มปรับปรุงสายการผลิตเดิมในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยนำระบบสมองกลเข้ามาใช้ภายในโรงงาน เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง HEV PHEV และ BEV โดยมีกำลังการผลิตรวม 8 หมื่นคันต่อปี การลงทุนติดตั้งเครื่องจักรและปรับสายการผลิตคาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนคือภายในสิ้นปี 2563 และจะเริ่มทำการผลิตรถยนต์รุ่นแรก SUV และรถกระบะออกวางจำหน่าย ในต้นปี 2564 คาดว่าจะเกิดการลงทุนกว่า 2.26 หมื่นล้านบาท และเกิดการจ้างงาน 3,435 คน
นอกจากนี้ ยังมีแผนผลิตชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ เช่น แผนการผลิตแบตเตอรี่ โดยมีการผลิตโมดูล,การแพ็คแบตเตอรี่,การตรวจสอบคุณภาพ และมีแผนผลิตชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่อรองรับสมรรถนะการใช้พลังงานของรถHEVและPHEV
สำหรับแผนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศปี 2564 คาดว่าจะมีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 45% สำหรับรถยนต์รุ่นแรก ซึ่งมีการใช้ชิ้นส่วนหลากหลายประเภท และมีแผนการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศเป็น 90% ภายในปี 2568 และยังมีแผนการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา ประกอบด้วย ศูนย์ออกแบบและพัฒนา ศูนย์ตรวจสอบประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออัจฉริยะ และศูนย์ฝึกอบรม โดยเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาที่รองรับการวิจัยและพัฒนาในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน
นายสุริยะ กล่าวว่า ปัจจุบัน ไทย มีศักยภาพในการผลิตรถยนต์ 2 ล้านคัน เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 1 ล้านคัน และผลิตเพื่อส่งออก 1 ล้านคัน และเมื่อเกรท วอลล์ฯ แสดงเจตนารมณ์จะเข้ามาลงทุนที่ไทยและมีแผนที่ชัดเจนถือเป็นเรื่องที่ดีต่อตลาดมาก เพราะผู้บริโภคในประเทศจะมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น และประเทศไทยมีศักยภาพ ในการผลิตชิ้นส่วนรองรับอย่างเพียงพอโดยมีมูลค่าการส่งออกสูงเทียบเท่ามูลค่าการส่งออกรถยนต์ และผู้ผลิตรถยนต์ในปัจจุบันก็มีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศสูงกว่า 80%
