รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จักและสัมผัสแนวคิดที่น่าชื่นชมของข้าราชการน้ำดีท่านหนึ่ง “ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม” ผู้ว่าฯ เลย ที่หลายคนยอมรับว่า เป็นผู้ว่าฯ ในดวงใจ และวันที่ 1 ต.ค.นี้ ท่านจะต้องย้ายมาเป็นผู้ว่าฯ ปทุมธานีแล้ว คนในพื้นที่ยิ่งเสียดาย ไม่อยากให้ท่านย้ายเลย
หากพูดถึงท่านชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย หรือผู้ว่าฯ ติ๊ก หรือที่ชาว จ.เลย มักเรียกท่านว่า “พ่อบักตาว” ถือได้ว่า เป็นผู้ว่าฯ ในดวงใจของคนไทยจำนวนไม่น้อย เนื่องจากมีภาพลักษณ์เป็นผู้ว่าฯ ติดดิน เช่น ปั่นจักรยานไปทำงาน
นอกจากนี้ผู้ว่าฯ ชัยวัฒน์ ยังถูกมองเป็นข้าราชการตัวอย่างที่ประชาชนอยากให้ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศเป็นแบบท่าน ที่อุทิศตนช่วยเหลือประชาชนอย่างสุดความสามารถ เท่าที่ตนเองสามารถกระทำได้ ดังที่สังคมได้เห็นผ่านสื่อหลายต่อหลายครั้ง เช่น ช่วงโควิด-19 ระบาด พี่น้องชาว จ.เลย หลายครอบครัวเดือดร้อนไม่มีเงินยังชีพหรือค้าขายไม่ได้ ต้องนำอุปกรณ์ทำมาหากินไปจำนำที่โรงรับจำนำ เมื่อท่านผู้ว่าฯ ชัยวัฒน์ทราบ จึงช่วยไถ่ถอนอุปกรณ์เหล่านั้นคืนให้ ซึ่งท่านทำแบบ “ปิดทองหลังพระ” ไม่ได้บอกให้ชาวบ้านรู้ว่า ใครช่วยไถ่ถอนคืน นอกจากนี้ท่านยังฝากข้าวสารอาหารแห้งให้ชาวบ้านอีกต่างหาก
“ถ้าเราช่วยเขาได้ มันก็เป็นเงินที่เราพอที่จะหาได้ ก็จะทำให้พี่น้องประชาชนมีเครื่องมือประกอบอาชีพ เมื่อมีเครื่องมือในการประกอบอาชีพ มูลค่าเพิ่มมันก็เกิด ครอบครัวก็จะได้รับการช่วยเหลือต่อไป คิดแค่นั้น ก็ทิ้งเงินไว้จำนวนหนึ่ง แล้วผู้จัดการโรงรับจำนำกับคนมาจำนำก็ติดต่อกันนะ ถ้าติดต่อกันแล้ว ทำขั้นตอนธุรการเสร็จแล้ว ก็มอบของให้ไป และฝากข้าวปลาอาหาร ไม่ว่าข้าวสารอาหารแห้งไปด้วย เมื่อมีแรงแล้ว วันต่อไป ก็จะได้สู้ด้วยกัน ก็คิดเช่นนั้น”
และเมื่อถึงคราน้ำป่าไหลบ่าท่วม จ.เลย เมื่อต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน ท่านผู้ว่าฯ ชัยวัฒน์ก็รีบลงพื้นที่ช่วยเหลือ ถึงกับไปนอนกางมุ้งค้างคืนที่วัด เพื่อเฝ้าระดับน้ำและดูแลประชาชน ท่ามกลางเสียงชื่นชมมากมาย
“มีผู้หลักผู้ใหญ่ครูบาอาจารย์เคยสอนไว้ว่า งานในหน้าที่ของเราไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ ไม่ว่าผู้ว่าฯ หรือใคร มันน่าจะมีลักษณะอย่างน้อยอยู่ 3 อย่าง 1.ระเบียบกฎหมายบังคับว่าต้องทำ 2.นโยบาย ไม่ว่าคำสั่งผู้บังคับบัญชาหรือนโยบายต่างๆ ที่จะให้ 3.คือสิ่งที่เราอยากทำเอง ถ้า 3 อย่างนี้มันอยู่ในวงเดียวกัน การทำงานมันก็ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เรื่องผมไปนอนเฝ้าพี่น้องประชาชนที่น้ำท่วม ก็กลับมาวิเคราะห์หลักเดิมก็คือ ระเบียบกฎหมายก็อนุญาตให้ทำได้ ไม่ได้ห้ามผู้ว่าฯ ไปนอนกับพี่น้องประชาชนไม่ได้ 2.นโยบาย รัฐบาลก็อยากให้เราดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด 3.จากใจเรา ก็เป็นห่วงและปรารถนาดีต่อพี่น้องประชาชน ทั้ง 3 งานนี้ มันมาอยู่ในวงเดียวกัน เพราะฉะนั้นก็ทำงานง่ายขึ้น และทำให้เราทำงานได้เร็วขึ้น”
เปิดชีวิตท่านผู้ว่าฯ ชัยวัฒน์ “วัยเด็ก...สุดยากจน”!!
“ใช้คำว่ายากจนน่าจะเหมาะที่สุด เพราะตอนเด็กๆ เราทำทุกอย่างที่คิดว่า เอาชีวิตให้รอด เพราะที่บ้านก็ยากจน ตอนเรียนประถม ต้องพยายามหาเงินทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นช่วยแม่ขายข้าวแกง ขายข้าวต้มมัดหรือเก็บเม็ดมะขามมาคั่วขาย พอตอน ป.6 ก็ไม่ได้เรียนหนังสือต่อ เพราะไม่มีเงินพอที่จะเรียนหนังสือได้ ก็ไปเป็นกระเป๋ารถเมล์”
ด.ช.ชัยวัฒน์ ในวันนั้นต้องทำงานสารพัด เพื่อยังชีพและเพื่อให้มีเงินเรียนหนังสือต่อ ไม่ใช่แค่เป็นกระเป๋ารถเมล์ แต่ปั้นอิฐก็ทำมาแล้ว นอกจากนี้ยังเคยปั่นสามล้อรับจ้าง รวมทั้งต้องไปขอวัดอยู่ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เผื่อจะมีเงินเหลือไว้เรียนหนังสือ
“พอเก็บเงินได้สักพักหนึ่งก็ไปลงเรียน กศน.และสอบเทียบไปด้วย พอสอบเทียบ ม.3 ได้ เรียน กศน.จบ ม.3 ก็ไม่มีเงินอยู่ดีที่จะไปเรียนต่อมัธยมปลาย ก็เลยมาลองเปลี่ยนอาชีพดูว่า เอ๊ะ ถ้าเรามาปั่นสามล้อ และไปขอหลวงพ่ออยู่วัด จะทำให้เราพอเรียนต่อได้ไหม ก็ปรากฏว่าโชคดีที่ ม.ปลาย เขามีภาคค่ำด้วย ก็ไปเรียนที่โรงเรียนเลยพิทยาคม แต่เป็นโรงเรียนภาคค่ำ กลางวันก็ปั่นสามล้อ แต่ค่าที่พักไม่ต้องเสีย เนื่องจากว่าไปอาศัยอยู่วัดเลยหลง(วัดศรีสุทธาวาสฯ) พอมีค่าเทอมมีเงินใช้จนจบ ม.6 พอจบ ม.6 แล้ว ก็คิดว่าชีวิตการเรียนคงจบแค่นั้น”
“ขอบคุณทุนจุฬาชนบทและขอบคุณความยากจน ที่ทำให้มีวันนี้”!!
“หลังจบ ม.6 เผอิญได้ครูประเสริฐศรีแนะนำว่า เธอลองไปสมัครทุนจุฬาชนบทดู เผื่อสอบได้ เพราะทุนจุฬาชนบทเนี่ย ให้ทั้งค่าเรียนทั้งค่าใช้จ่ายประจำเดือน ก็ปรากฏว่า สอบได้ ก็เลยได้เข้าไปเรียนที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เรียนย้ำว่า ถ้าไม่มีทุนจุฬาชนบท ก็ไม่มีผมในวันนี้”
หลังเรียนจบ เริ่มชีวิตข้าราชการ กระทั่งเติบโตจนขึ้นเป็นผู้ว่าฯ ราชการจังหวัด หากถามว่า คิดฝันมาก่อนหรือไม่ว่า จากเด็กที่ยากจนคนหนึ่ง จะมาไกลถึงตำแหน่งนี้
“ผมไม่ได้มีความคิดที่จะเป็นนั่นนี่ มีความคิดอย่างเดียวว่า 1.ไม่เป็นภาระแก่สังคม ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปขั้นหนึ่ง 2.มีอาชีพ มีเงินค่าครองชีพมีข้าวมีปลากิน ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว แต่สิ่งที่มาถึงวันนี้ ได้มากกว่าสิ่งที่เราตั้งใจไว้ ไม่ใช่เรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ แต่เราได้ทำงานเพื่อบ้านเมืองตามสมควรแก่อำนาจหน้าที่ และตามความรู้ความสามารถที่มีอยู่”
ท่านผู้ว่าฯ ชัยวัฒน์ เป็นผู้ว่าฯ ที่ติดดิน กิน-อยู่ง่าย ชอบออกกำลังกาย และเดินจ่ายตลาดด้วยตนเอง
“ท่านคนติดดิน ท่านเป็นคนไม่ถือตัว ท่านเป็นคนง่ายๆ เข้ากับประชาชนได้ดี เป็นที่รักของทุกคน ไม่ว่าประชาชนชาวบ้านคนเฒ่าคนแก่เด็ก ท่านจะช่วยทุกคน และกินอยู่ง่าย” ยศวัฒน์ พัชระศักดิ์สกุล ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองเลย
ท่านผู้ว่าฯ ชัยวัฒน์ ไม่เพียงเป็นผู้ว่าฯ ที่ประชาชนเข้าถึงง่าย แต่ยังใส่ใจทุกความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ท่านยังเปี่ยมด้วยน้ำใจให้คนขับรถประจำตำแหน่งพาผู้ร้องทุกข์ที่อายุมากแล้วส่งกลับถึงบ้านอีกด้วย
แม้อยู่ในตำแหน่งที่สูง แต่ท่านผู้ว่าฯ ชัยวัฒน์ ให้ความสำคัญกับทุกคนรอบข้าง ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะยากดีมีจน หรือมีตำแหน่งสูงต่ำเพียงใด ท่านให้ความสำคัญเสมอ สังเกตได้จากการเปิดจวนผู้ว่าฯ เพื่อเลี้ยงโต๊ะจีนปีใหม่ให้กับพนักงานเก็บขยะ พนักงานดับเพลิง และลอกท่อ นอกจากนี้ท่านยังเปิดจวนผู้ว่าฯ ให้ประชาชนได้จัดงานแต่งงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย
“เคยไปงานแต่งงาน ถามเขาว่าค่าใช้จ่ายเยอะไหม บางคนบอกว่าหลายตังค์ บางคนบอกเป็นหนี้เหมือนกัน ...ถ้าเริ่มต้นชีวิตแบบไม่เป็นหนี้สิน ก็น่ารัก ถ้าเริ่มต้นชีวิตคู่แล้วเป็นหนี้เลย ชีวิตก็ต้องต่อสู้มาก ก็เป็นเรื่องที่ช่วยๆ กันคิดช่วยๆ กันทำ”
3 ปีของชีวิตราชการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด เริ่มจากเป็นผู้ว่าฯ ที่ จ.ราชบุรี ก่อนกลับมาเป็นผู้ว่าฯ ที่บ้านเกิด จ.เลย เมื่อถึงวาระที่ท่านผู้ว่าฯ ชัยวัฒน์ จะต้องย้ายไปเป็นผู้ว่าฯ ที่ จ.ปทุมธานี ในเดือน ต.ค.นี้ ทำให้ทั้งผู้ใต้บังคับบัญชาและพี่น้องชาว จ.เลย รู้สึกใจหายและอดเสียดายท่านไม่ได้
“รู้สึกว่าเสียดาย ไม่อยากให้ท่านไปเลย ของดีๆ ไปจากเรา ไม่อยากให้ไป เพราะท่านดีมาก” ชาวบ้านบ้านสูบ หมู่ 1 ต.น้ำสวย อ.เมืองเลย
“ถ้าท่านไปก็คงจะไปพัฒนาที่ใหม่ก็คงดี แต่เราก็ไม่อยากให้ไป เพราะท่านดีกับคนเมืองเลย ท่านช่วยทุกอย่าง พอได้ยินว่าใครเดือดร้อน ท่านจะไป ไปถึงก่อนคนอื่นด้วย ไม่ใช่ว่าลูกน้องไปก่อน แล้วผู้ว่าฯ จะไป ท่านจะไปลงพื้นที่ก่อน แล้วอยู่ตลอด ถ้าท่านย้ายไป ก็เสียใจ”ประสิทธิ์ บุตรปัสสา ประธานสภา อบต.น้ำสวย จ.เลย
“เสียดายจังเลย เสียดายบุคคลดีๆ อย่างนี้ อยากให้อยู่ใน จ.เลยจนเกษียณ แต่ด้วยความที่เป็นข้าราชการ ท่านได้ไปดูแลจังหวัดที่ใหญ่ขึ้น ก็ดีใจกับท่าน ต่อไปท่านคงได้เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของประเทศต่อไป”จรูญ พานิช นายก อบต.น้ำสวย จ.เลย
“ต้องขอเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน จ.เลย ต้องขอบคุณท่านผู้ว่าฯ ชัยวัฒน์ที่ได้สร้างคุณูปการให้กับ จ.เลย แต่ด้วยวิถีชีวิตราชการจำเป็นต้องไปตามคำสั่ง ท่านมาอยู่ จ.เลย เรียกว่าเป็นขวัญใจก็ได้มั้ง ผมดูแล้ว ท่านไปแต่ละแห่ง พี่น้องประชาชนจะรักท่าน” ณรงค์ จีนอ่ำ ปลัดจังหวัดเลย
จากเด็กยากจน มุมานะทำงานสารพัดเพื่อยังชีพและเพื่อให้มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ใครจะคิดว่า คนเคยเป็นกระเป๋ารถเมล์ เคยปั่นสามล้อ และเคยเป็นเด็กวัด จะกลายมาเป็นผู้ว่าฯ ในวันนี้ได้ แต่ท่านชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ทำได้ ...ที่สำคัญ ท่านเป็นผู้ว่าฯ ที่ติดดิน ไม่ถือยศถาบรรดาศักดิ์ เป็นกันเองกับทุกคน ใส่ใจทุกความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ และช่วยเหลือดุจคนในครอบครัวของท่านเอง ผู้ว่าฯ แบบนี้ ไม่ว่าจะย้ายไปอยู่จังหวัดไหน เชื่อเหลือเกินว่า จะเป็นผู้ว่าฯ ในดวงใจที่ใครๆ ก็รักอย่างแน่นอน!!
คลิกชม รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “พ่อบักตาว...ผู้ว่าฯ ในดวงใจ”
https://www.youtube.com/watch?v=DDKOgXvmnMI&t=9s
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos