xs
xsm
sm
md
lg

คลัง โต้ข่าวรัฐถังแตก ยันหนี้สาธารณะไม่เกิน60%

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระทรวงการคลัง ชี้แจงกรณีขอ ครม.กู้เงินเพิ่ม 2.14 แสนล้านบาท เป็นการเปิดวงเงินไว้ รองรับวิกฤติโควิด ยืนยันระดับเงินคงคลังของรัฐ ยังเพียงพอต่อการใช้จ่าย ขณะที่หนี้สาธารณะ ก็ยังยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง ไม่เกิน60%ของจีดีพี

นาง แพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ หรือ สบน. ชี้แจงกระแสข่าวที่ว่า “คลัง ถังแตก เงินคงคลังไม่พอใช้” จนคณะรัฐมนตรี ต้องอนุมัติกู้เงินพิ่มเติมอีก 2.14 แสนล้านบาท โดยขอชี้แจงว่า การที่ ครม. อนุมัติให้ สบน.กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ อีก 2.14 แสนล้านบาท เป็นการเปิดวงเงินไว้ รองรับกรณีรายจ่าย สูงกว่ารายได้ สืบเนื่องมาจากสถานการณ์ แพร่ระบาดของโควิด- 19 ที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออก การท่องเที่ยว กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการประกอบอาชีพของประชาชนทุกสาขาอาชีพ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจ อย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับ การเลื่อนระยะเวลาชำระภาษีเงินได้ ส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2563 ดังนั้น เพื่อเตรียมการรองรับการใช้จ่ายของรัฐบาลในช่วงต้นปีงบประมาณ 2564 และเพื่อให้การดำเนินมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เดินหน้าได้ต่อเนื่อง กระทรวงการคลัง จึงจำเป็นต้องขออนุมัติกรอบการกู้เงินรองรับ โดยจะกู้ตามความจำเป็น แลัต้องพิจารณาร่วมกับระดับเงินคงคลัง รายจ่าย และรายรับของรัฐบาล

ปัจจุบัน ระดับเงินคงคลังของรัฐบาล ยังอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการใช้จ่าย โดยสถานะเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2563 อยู่ที่ 282,141 ล้านบาท คาดว่า ณ สิ้นปีงบประมาณ 2563 (ก.ย.63) เงินคงคลัง จะอยู่ในระดับที่เพียงพอ รองรับการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานภาครัฐ และดำเนินมาตรการ ที่จำเป็นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทย ในระยะต่อไป

ในกรณีที่รัฐบาล จำเป็นต้องกู้เงินเพิ่มเติม เต็มกรอบวงเงิน 2.14 แสนล้านบาท จะส่งผลให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี สิ้นปีงบประมาณ 2563 อยู่ที่ระดับ 51.64 % ซึ่งไม่เกิน 60% ตามกรอบการบริหารหนี้สาธารณะ ที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนดไว้

ผู้อำนวยการ สบน. ย้ำว่า การกู้เงินเพื่อมาใช้จ่าย กรณีที่รายจ่ายมากกว่ารายได้ในปี 2563 ไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก เพราะประเทศไทย เคยกู้เงินลักษณะนี้มาแล้ว เมื่อช่วงที่เกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551
ขณะที่ปีนี้ คาดว่า จะจัดเก็บรายได้ต่ำกว่า 9% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือ กว่า 3 แสนล้านบาท เพราะมีการเลื่อนยื่นแบบชำระภาษีเงินได้ โดยคาดว่า จะเริ่มมีเงินเข้าในช่วงเดือนกันยายน จึงจำเป็นต้องให้กระทรวงการคลัง เปิดวงเงินกู้ไว้

ส่วนความคืบหน้า การกู้เงินตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ขณะนี้กระทรวงการคลัง กู้ไปแล้ว 3.18 แสนล้านบาท ส่วนที่เหลือ คาดว่า จะกู้ในปีงบประมาณ 2564 ตามความต้องการใช้เงินของรัฐบาลในการฟื้นฟูประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น