xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.พร้อมช่วยรัฐ ฟื้นฟูประเทศ เน้นเพิ่มจ้างงาน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่ม ปตท.พร้อมช่วยภาครัฐ กระตุ้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง เน้นเพิ่มการจ้างงานทุกรูปแบบ ภายใต้งบลงทุนปีนี้กว่า 5 หมื่นล้านบาท ยอมรับผลกระทบจากโควิด ฉุดรายได้ทั้งปีนี้ ต่ำกว่าปีที่แล้ว เร่งปรับโครงสร้างธุรกิจรองรับแนวโน้มการใช้พลังงานระยะยาว

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. ยอมรับว่า สถานการณ์โควิด-19 กระทบระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมทั่วโลก ซึ่งกลุ่ม ปตท.ก็ได้รับผลกระทบทั้งในแง่ยอดขายและราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลง โดยคาดว่า รายได้ปีนี้ จะลดลงเป็นตัวเลขสองหลัก เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มียอดขายอยู่ที่ 2.2 ล้านล้านบาท เพราะปีนี้ ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 40-45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากปีที่แล้ว ราคาเฉลี่ย 63.5 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล

นายอรรถพล เชื่อว่า ราคาน้ำมัน และยอดขายช่วงครึ่งปีหลัง จะดีกว่าครึ่งปีแรก ผลจากการคลายล็อกดาวน์ ซึ่งน่าจะทำให้ผลดำเนินงานครึ่งปีหลังของ กลุ่ม ปตท.เริ่มฟื้นตัวแบบค่อยเป็น ค่อยไป ตามภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว

นายอรรถพล กล่าวว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรัฐมนตรีพลังงาน ขอให้ ปตท.ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่ได้รับกระทบจากโควิด-19 ซึ่ง ปตท.ก็ขานรับนโยบาย โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะเดินหน้าโครงการลงทุนต่างๆ ภายใต้งบลงทุนปีนี้ 53,900 ล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ใช้เงินลงทุนไปแล้ว 50% และจากนี้ไป จะเห็นการจ้างงานเพิ่มขึ้น ทั้งการจ้างงานตรงในกลุ่ม ปตท. และการจ้างงานในรูปแบบเชิงช่วยเหลือสังคม รวมทั้งช่วยด้านการตลาดของสินค้าชุมชน ทั้งขายผ่านปั๊มน้ำมัน ,การขายรูปแบบตลาดออนไลน์ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดแก่ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของ กลุ่ม ปตท. (ม.ค.-มิ.ย. 2563) มีรายได้ 824,892 ล้านบาท ลดลง 26% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 เป็นผลมาจากราคาปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่ลดลง จากผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันลดลง ประกอบกับสงครามราคาน้ำมันที่ต่ำเหลือ 30.6 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) 86,593 ล้านบาท ลดลง 44% และมีกำไรสุทธิ 10,499 ล้านบาท ลดลง 81%

แผนลงทุนปี 2563 มุ่งลงทุนตาม 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1.ธุรกิจขึ้นต้น (reimagine upstream) ที่จะเน้นการขุดเจาะสำรวจ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานธุรกิจไปสู่ LNG protfolio player ด้วยการขยายการทำตลาด LNG ในต่างประเทศ เนื่องจากเป็นเชื้อเพลิงที่จะเติบโตในหลายปีข้างหน้า รวมทั้งหาโอกาสการลงทุนใน value chain ของ gas และ LNG เพิ่มเติม

2.ธุรกิจขั้นปลาย (reinforce downstream) การสร้างมูลค่าทางธุรกิจ (synergy) เพื่อสร้างความเข้มแข็งระยะยาวให้กับกลุ่มธุรกิจ ด้วยการลดความซ้ำซ้อนในการลงทุน ซึ่งจะทำให้ก้าวผ่านช่วง dawn circle ได้

3.reignite new business at scale ที่จะเป็นการเร่งพัฒนาและขยายธุรกิจรูปแบบใหม่ โดยการลงทุนในธุรกิจนอกเหนือจากพลังงาน เช่น ยา อาหารเสริม ไลฟ์สไตล์ที่ทางบริษัทย่อย PTTOR ดำเนินการอยู่ รวมถึงการขยายไปสู่ธุรกิจโลจิสติกส์
กำลังโหลดความคิดเห็น