โฆษก ศบค. แจง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15 ราย พร้อมขอความร่วมมือคนไทย ช่วยกันหยุดโควิด แต่อย่าหยุดเศรษฐกิจในประเทศ
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 7 สิงหาคม ว่า สถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทยอยู่อันดับที่ 112 ของโลก พบผู้ป่วยใหม่ 15 คน รักษาหายกลับบ้านแล้ว 3,148 คน ยืนยันผู้ป่วยสะสม 3,345 คน รักษาอยู่ 139 คน และเสียชีวิตรวม 58 คน
โดยผู้ป่วยรายใหม่เดินทางมาจากประเทศอียิปต์ 4 ราย เป็นผู้ป่วยชายไทยอายุ 22,23,26 และ 28 ปี เดินทางถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 ก.ค.63 ซึ่งเป็นเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 5 ราย เข้าพัก State Quarantine ที่จังหวัดชลบุรี ตรวจเชื้อเมื่อวันที่ 5 ส.ค.63 ซึ่งเป็นวันที่ 12 ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ เดินทางมาจากประเทศซาอุดีอาราเบีย 10 ราย เป็นนักศึกษาชายไทย 9 ราย อายุระหว่าง 24-28 ปี และอีก 1 รายเป็นผู้ป่วยชายไทยอายุ 43 ปี อาชีพพนักงานโรงงาน เดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 ก.ค.63 ซึ่งเป็นเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 2 ราย ซึ่งเป็นวันที่ 11 เข้าพัก State Quarantine ที่จังหวัดชลบุรี ตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 5 ส.ค.63 ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ และเดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่น 1 ราย เป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 29 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 31 ก.ค.63 เข้าพัก State Quarantine ที่จังหวัดสมุทรปราการ ตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 5 ส.ค.63 ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ
โดยประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศวันนี้ยูเอ็นชื่นชมไทยรับมือโควิด-19 ชี้เป็นตัวอย่างของความแข็งแกร่งและความสามัคคี โดยนางคีตา สภารวัล ผู้แทนองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย ระบุว่า ความสำเร็จครั้งนี้มาจาก 3 ปัจจัยหลักคือ การดำเนินมาตราการของรัฐบาล ความรับผิดชอบต่อสังคมของจิตอาสา และความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประชาชนในการช่วยป้องกันโรค
เรื่องการนำคนไทยที่ติดค้างอยู่ต่างประเทศที่ต้องการเดินทางกลับมาในวันนี้จะมีการเดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 190 คน และประเทศสิงคโปร์ 68 คน ในวันพรุ่งนี้(8ส.ค.63)จะมีการเดินทางกลับมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ 150 คน ประเทศการ์ตาร์ 2 คนและมาจากประเทศวหรัฐอเมริกาผ่านประเทศเกาหลีใต้ 200 คน โดยทุกคนจะต้องเข้าสถานกักกันตัวของรัฐ
เมื่อถามว่า Alternative State Quarantine หรือ ASQ สถานที่กักตัวของต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศ สร้างความกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง อีกทั้ง ศบค. จะแจ้งข้อมูลของคนที่เข้ามาอยู่ ASQ ทั้งหมดหรือไม่ หรือจะมีวิธีอะไรที่จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รู้ถึงว่าสถานที่ดังกล่าวเข้าร่วม ASQ นายแพทย์ทวีศิลป์ เผยว่า ประชาขนสามารถตรวจสอบรายชื่อโรงแรมที่เข้าร่วม ASQ ได้จากเว็บของกระทรวงสาธารณสุข http://hsscovid.com อีกทั้ง ศบค. ไม่เคยปิดบังข้อมูลใด ๆ
ส่วนโรงแรมที่เข้าร่วม จะต้องเป็นโรงแรมที่มีคุณภาพ และผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขและฝ่ายความมั่นคง
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า การที่จะให้โรงแรมติดประกาศหน้าว่าเป็นพื้นที่ ASQ ให้เป็นสิทธิ์ของโรงแรม หากเป็นการประกาศเพื่อให้รู้ถึงศักยภาพของแรม ส่วนตัวเห็นด้วย แต่การที่จะให้โรงแรมแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ จะให้สาธารณสุขและความมั่นคงเป็นผู้ดูแล แต่ถ้าต้องการจะสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้ที่จะมาใช้บริการ จนเกิดความกังวลมากเกินไป จะทำให้เราหวาดระแวง และเศรษฐกิจจะไม่เดินหน้า ทั้งนี้ การเข้ามากับตัวในโรงแรมจะต้องทำตามมาตรการต่าง ๆ คือ การแยกโซนของผู้กักตัวออกจากส่วนให้บริการทั่วไป การแยกของใช้ และมีแพทย์ พยาบาล ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมีการป้องกันระบบความปลอดภัย กล้องวงจรปิด ถ้าไม่ครบ 14 วัน จะไม่สามารถออกไปไหนได้
นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ASQ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในสังคม ทั้งนี้ ขอบคุณโรงแรมที่เข้าร่วม มาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ผู้ที่พักในประเทศไทยได้มีที่พักปลอดภัย และปลอดเชื้อ รวมถึงการร่วมมือของประชาชน ที่ช่วยกันทำให้ไทยปลอดเชื้อมาโดยตลอด เหมือนกรณีที่ชาวจีนจะเข้ามาในประเทศ เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อติดต่อธุรกิจภายในประเทศนั้น ศบค. ได้ทำความเข้าใจกับภาคธุรกิจของจีน ที่จะต้องทำตามมาตรการและข้อปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขและฝ่ายความมั่นคง และเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความตระหนกมากจนเกินไป ทุกคนที่จะเข้ามาในประเทศไทย จะต้องรับผิดชอบตัวเองก่อน รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ก็จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน และอยากให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา และรัฐบาลจะพยายามทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามถึง การเดินทางมาฝึกของทหารสหรัฐอเมริกากว่า 110 นาย ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย สรุปแล้วผลการตรวจโควิด-19 เป็นอย่างไรนั้น นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า กองทัพบก เป็นเจ้าภาพการฝึกนี้ ได้ทำความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณะสุข อีกทั้งเมื่อเช้าได้รับรายงานของกระทรวงสาธารณสุขด้วยว่า ผลการตรวจโควิด-19 ของทหารสหรัฐฯ ทั้ง 110 นาย ที่พักอยู่ใน ASQ ผลออกมาไม่พบเชื้อ อีกทั้งตอนนี้ยังไม่มีข้อกังวล และประชาชนที่กำลังติดตามสถานการณ์นี้ จะต้องรอฟังกระทรวงสาธารณสุขและกองทัพบกออกมาแถลงข่าวอีกครั้ง