ประธานคกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย คดี”บอส อยู่วิทยา”ประชุมนัดแรก ชี้นายกฯให้ทำงานอย่างอิสระ เพื่อหาความจริงให้ปรากฏ ในกรอบเวลา 30 เพียงพอ
ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายวิชา มหาคุณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาในคดีนายบอส อยู่วิทยา ขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ปฏิบัติหน้าที่ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมนัดแรกของคณะกรรมการฯว่า วันนี้ ยังไม่สามารถตอบอะไรได้ ต้องขอคุยกันก่อน เพราะกรอบเวลาการประชุมยังไม่สามารถพูดอะไรได้ ต้องมีการหารือกันก่อน
ส่วนเรื่องของการรื้อคดีที่มีจากข้อเสนอจากหลายฝ่ายถ้าอัยการไม่สั่งฟ้องจะมีแนวทางใดนั้น นายวิชา เผยว่า ในคณะกรรมการนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันว่าคดีนี้สิ้นสุดแล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถใช้อำนาจสั่งการได้ แต่นายกรัฐมนตรี สามารถมีข้อเสนอแนะได้
ด้าน นายมุนินทร์ พงศาปาน คณะบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในคณะกรรมการฯ เปิด เผยว่า เบื้องต้นได้มีการหารือแนวทางกันก่อน แต่ในเรื่องดังกล่าวประเด็นค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตและข้อสงสัยในสังคม และสื่อมวลชน ซึ่งถือเป็นกรอบหนึ่งในการทำงานของคณะกรรมการ ที่จะต้องตรวจสอบข้อสังเกตต่าง ๆ ว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยเท่าไหร่
ส่วนคณะกรรมการชุดนี้จะสามารถรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ได้หรือไม่นั้น นายมุนินทร์ ระบุว่า ตนไม่ขอตอบเนื่องจากต้องให้คณะกรรมการนั้นพูดคุยหารือกันก่อน ซึ่งจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตนมองว่าในระบบกฎหมายมีทางออกเสมอ เพียงแต่ผู้ที่มีอำนาจจะใช้ หยิบยกหรือตีความกฎหมายอย่างไร ส่วนนายกรัฐมนต รีมีอำนาจสั่งการรื้อคดีใหม่หรือไม่นั้น ตนเดาใจนายกรัฐมนตรีว่ามีจุดประสงค์ในการตั้งคณะกรรมการชุดนี้เพื่อให้เป็นกรรมการอิสระและตนเข้าไปในฐานะกรรมการอิสระในส่วนของนักวิชาการ
ทั้งนี้ ตนมองว่า คดีนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไรในทางกฎหมาย แต่เป็นการซับซ้อนในข้อเท็จจริง ซึ่งต้องหาความจริงให้ปรากฏ ซึ่งหากความจริงยุติลงก็จะเห็นช่องทางในทางกฎหมายและคณะกรรมการชุดนี้มีความตั้งใจว่าจะเป็นที่พึ่งของประชาชน แต่ขอต้องใช้เวลาดูไปอีกพักหนึ่งว่าจะเป็นที่พึ่งได้หรือไม่ ซึ่งกรอบระยะเวลา 30 วันเพียงพอในการทำงานบางอย่าง แต่คณะกรรมการดังกล่าวไม่ใช่ศาลที่จะสามารถชี้มูลได้ 100% ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยที่สุด ก็จะสามารถประเมินข้อสงสัยว่าข้อเท็จจริงต่างๆมีมูลหรือไม่เพื่อจะสามารถแก้ไขปัญหาจริงจังต่อไป และมีความเป็นไปได้ว่า จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ แต่ขอให้คณะกรรมการได้หารือกันก่อน