xs
xsm
sm
md
lg

ทอท.ยืดมาตรการเยียวยาโควิด ช่วยธุรกิจในสนามบิน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คณะกรรมการ ทอท. มีมติขยายเวลามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในสนามบิน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเลื่อนชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนในการประกอบกิจการ จากเดิมขยายให้ 6 เดือน เป็น 12 เดือน และปรับวันเริ่มต้นสัญญาดิวตี้ฟรี กับกลุ่มคิงเพาเวอร์ จาก 28 กันยายน 2563 เป็นเริ่ม 1 เมษายน 2565

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. บอกว่า คณะกรรมการ ทอท. มีมติขยายระยะเวลาเลื่อนชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนในการประกอบกิจการของผู้ประกอบการและสายการบินของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง อีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยขยายระยะเวลาชำระสำหรับงวดที่ครบกำหนดชำระตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 2563 จาก 6 เดือน เป็น 12 เดือน จากวันครบกำหนดชำระตามระยะเวลาปกติ

ในส่วนของงานประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ซึ่งกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ประกอบกิจการ ในสนามบินในความรับผิดชอบของ ทอท.อายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 กันยายน 2563 - 31 มีนาคม 2574 ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของสัญญา จะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการ ต้องเข้าปรับปรุงพื้นที่ร้านค้าทั้งภายในอาคารผู้โดยสารหลัก และภายในอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1)

แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด ส่งผลต่อแผนการเปิดใช้อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเดิมมีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2563 แต่โควิด ส่งผลให้วัสดุอุปกรณ์ในงานก่อสร้างหลายรายการ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่มาทดสอบระบบ ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ ทำให้ภาพรวมของการทดสอบการเปิดให้บริการต้องเลื่อนออกไป ส่งผลให้ผู้ประกอบการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ไม่สามารถดำเนินงานตามแผนภายใต้สัญญาเดิมได้

ทอท.จึงปรับระยะเวลาสัญญา ให้สอดคล้องกับการเปิดใช้อาคาร เป็นเริ่ม 1 เมษายน 2565 - 31 มีนาคม 2575 และปรับผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ โดยคงผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อผู้โดยสาร (Sharing per Head) แต่ให้แปรผันตามจำนวนผู้โดยสารที่เกิดขึ้นจริง สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด แทนของเดิม ที่ให้ขึ้นกับประมาณการณ์จำนวนผู้โดยสาร เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้

ทอท. ยอมรับว่าผลประกอบการงวดปี 2564 (ต.ค.63-ก.ย.64) มีความเสี่ยงจะขาดทุน หลังจากช่วง 4 เดือนแรก (ต.ค.63- ม.ค.64) ซึ่งปกติเป็นช่วงไฮซีซั่น มีแนวโน้มที่จำนวนผู้โดยสารจะลดลงมาก จากสถานการณ์โควิดที่ยังมีต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ปริมาณจราจรทางอากาศในอนาคตของสนามบิน ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท. จะกลับมาเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป จนถึงระดับปกติในเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการงวดปี 2565 ดีขึ้น โดยมีจำนวนผู้โดยสารทั้ง 6 สนามบิน ประมาณ 128 ล้านคน




กำลังโหลดความคิดเห็น