xs
xsm
sm
md
lg

"จิรายุ" ซัดงบฯ64“มหกรรมก่อหนี้แห่งชาติ”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จิรายุ” ห่วงทรัพย์" จวกรัฐ ตั้งงบประมาณฯปี 2564 ไม่ดูตามา ตาเรือ สร้างมหกรรมก่อหนี้แห่งชาติ

รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ สส.กทม.กล่าวถึงการอภิปรายร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ว่า การชี้แจงของรัฐมนตรีโดยเฉพาะกระทรวงการคลังที่มีกลุ่ม 4 กุมารอยู่นั้น ดูเหมือนจะตอบแบบไม่มีกระจิตกระใจในการทำงาน ทำให้น่าเป็นห่วง ว่าอาจทำให้ประเทศไทยถูกกดดันให้เร่งเข้าสู่เรดโซนได้ เพราะดูแล้วรัฐบาลทำงบประมาณแบบฝันหวาน ทั้งๆ ที่ไม่สามารถกำหนดฝันได้เพราะปัจจัยลบเต็มไปหมด

นอกจากนี้ จากการอภิปรายของ ฝ่ายค้านที่ทำการบ้านร่วมกันมาเป็นอย่างดี เจาะตรงเป้า เข้าทุกดอก ตอกทุกประเด็น แต่รัฐมนตรีหลายคนก็ตอบแบบเลี่ยงบาลี เรียกว่าตอบแบบเสียไม่ได้ ตอบแบบรักษากระทรวงของตนเองไว้ โดยเฉพาะรัฐมนตรีพรรคร่วมเห็นได้ชัดว่า ไม่ใส่ใจภาพรวมการจัดทำงบประมาณ ไม่ช่วยอธิบายแทนนายกรัฐมนตรี ที่โดนจัดเต็มอยู่คนเดียว โดยตลอด 7 ปีมานี้ ทำให้เห็นความอันตรายของการจัดทำงบประมาณ ซึ่งถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายของประเทศ เพราะหากจัดทำแบบสุรุ่ยสุร่ายกับชุดความคิดเดิมๆ เติมขึ้นมาคือเอื้อพรรคพวก แถมไม่ดูตาม้าตาเรือ ก็จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศที่สุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว ล้มครืนถึงขั้นล้มละลายได้และอาจต้องใช้บริการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ได้

ทั้งนี้ ฝ่ายค้านเป็นห่วงแนวคิดและฝีมือบริหารประเทศ ที่ยังไม่เห็นน้ำยาในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลมาเป็นเวลากว่า 7 ปี ตนขอเตือนประชาชนว่าปี 2564 ถึง 2565 จะเป็นช่วงที่น่าจับตา และต้องประคองตนเองอย่างยิ่ง เพราะจากการกู้เงินของรัฐบาลจะมีสูงถึง 58% ไปแล้วซึ่งเหลืออีกเพียง 2% ก็จะเต็มวงเงินในการกู้ และยิ่งเห็นการจัดทำงบประมาณซึ่งไม่ได้สนับสนุนเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้นัก และปีต่อไปก็จะทำให้รัฐบาลไม่สามารถกู้เงินได้อีก


ทั้งนี้ เป็นที่น่าตกใจมากว่า เรามีนายกรัฐมนตรี 28 คนตั้งแต่สยามประเทศ ปี 2475 มาจนปี 2557 ไม่รู้กี่รัฐบาล กู้เงินรวมกันแค่ 2.295 ล้านล้านบาท แต่พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คนนี้คนเดียวจัดเต็มกู้มากกว่า นายกรัฐมนตรี 28คน ถึง 3.825 ล้านล้านบาท

ขณะเดียวกัน ทางสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ยังระบุว่า เศรษฐกิจที่รัฐบาลคาดการณ์ว่าในปี 2564 จะโตประมาณ 5% นั้น ยังมีความไม่แน่นอน และมีความเสี่ยงสูง เป็นการประเมินเข้าข้างตัวเองเกินไป แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย กลับออกมาเตือนอีกทางว่า อาจจะติดลบถึง 8.1% ตนต้องรีบบอกพี่น้องประชาชนว่าอย่าได้นิ่งนอนใจ เตรียมตัวรับมือให้ดี เพราะอาจจะเกิดสึนามิทางเศรษฐกิจอาจคล้ายกับหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะข้าราชการทั้งประเทศ อาจ ตกงานกว่าครึ่ง เพราะมีตัวอย่างแล้วในช่วงที่ประเทศไม่มีเงินและไม่สามารถกู้ได้ ต้องลดรายจ่ายประจำ ในยุคนั้นก็จะใช้ดุลข้าราชการคือการเลิกจ้าง ลดองค์กรของรัฐ และทหารลดกำลังพล เพราะหากปี 2564-2565 รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ และยังจัดทำงบประมาณแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ประเภทขอนอนก่อน ฉันจะขอฝันดี ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ นอกจากจะขาดดุลงบประมาณแล้ว ก็จะไม่สามารถกู้ได้อีกแล้ว ก็จะต้องไปลดงบประมาณรายจ่ายเพื่อให้เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังที่ต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อการลงทุนไม่น้อยกว่า 20%

เพราะฉะนั้นอยากให้ นายกรัฐมนตรีฟังประชาชนบ้าง วันนี้ชาวบ้านพูดกันเป็นเสียงเดียวกันแล้วว่าวันนี้ผู้ติดเชื้อไม่มี แต่ผู้เป็นหนี้ มีเต็มบ้านเต็มเมือง จึงไม่แปลกที่รัฐบาลของ พลเอกประยุทธ์ ที่ได้รับฉายา / นักกู้แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา / บิดาแห่งความเหลื่อมล้ำ / ผู้นำการก่อหนี้ และยังเป็นผู้จัดงานมหกรรมก่อหนี้แห่งชาติ ด้วยงบประมาณ 2564 นี้อีก
กำลังโหลดความคิดเห็น