ครม.พร้อมเปิดเว็บให้ประชาชนลงทะเบียน เราเที่ยวด้วยกัน 15 ก.ค. นี้
วันนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบ โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว วงเงิน 22,400 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างการจัดทำแพลตฟอร์มเพื่อให้โรงแรม โฮมสเตย์ ร้านอาหาร เป็นต้น ที่จะเข้าร่วมโครงการเข้ามาลงทะเบียน ขณะที่ประชาชนจะเริ่มลงทะเบียน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ในวันที่ 15 ก.ค.นี้
สำหรับโรงแรมที่จะเข้าร่วมโครงการ ต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมจากกรมการปกครอง โฮมสเตย์ที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องได้รับการขึ้นทะเบียน โดยกรมการท่องเที่ยว และสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ โรงแรม โฮมสเตย์ที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องกำหนดราคาที่พักไม่สูงกว่าราคาที่ผู้ประกอบการโรงแรมและโฮมสเตย์เสนอขายผ่านทางเว็บไซต์ของผู้ให้บริการจองที่พักและการท่องเที่ยวออนไลน์
ส่วนประชาชนที่จะใช้สิทธินั้น จะต้องลงทะเบียนผ่านเว็บที่กำหนด หรือผ่านทางแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง โดยกรอกข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่ธนาคารกำหนด เมื่อตรวจสอบข้อมูลของผู้ที่ลงทะเบียนแล้วจะมีข้อความตอบกลับแจ้งให้ผู้ลงทะเบียนดำเนินการยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง เมื่อประชาชนได้รับการยืนยันแล้ว สามารถดำเนินการจองที่พักและชำระค่าโรงแรมที่พักในอัตรา 60% ของราคาที่โรงแรมเสนอขาย
โดยรัฐบาลจะโอนเงินค่าโรงแรมและโฮมสเตย์ในส่วนที่รัฐบาลให้การสนับสนุนในอัตรา 40% ของค่าโรงแรมที่พักแต่ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืน ตามจำนวนคืนที่เข้าพักจริงให้กับผู้ประกอบการโรงแรมโดยตรง เมื่อผู้จองได้เช็คเอ้าท์ จากโรงแรม โดย 1 หมายเลขบัตรประชาชนสามารถจองที่พักได้ไม่เกิน 5 วัน
ส่วนผู้จองที่พักจะได้รับเงินสนับสนุนค่าอาหารและค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดในทะเบียนบ้านในลักษณะร่วมจ่ายในอัตรา 40% ของค่าใช้จ่ายดังกล่าว แต่ไม่เกิน 600 บาทต่อห้องต่อคืน ตามจำนวนคืนที่พักเข้าจริง โดยรัฐบาลจะจ่ายผ่านแอปเป๋าตังของผู้จองที่พักเป็นรายวันและจะสามารถใช้สิทธิเมื่อผู้จองที่พักได้เช็คอินเข้าพักแล้วเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม กำหนดจำนวนโครงการไม่เกิน 5 ล้านคน สำหรับผู้จองที่พักเดินทางโดยเครื่องบินจะต้องดำเนินการจองและชำระค่าบัตรโดยสารเต็มจำนวนผ่านทางเว็ปไซต์ของสายการบิน โดยผู้จองที่พักมีสิทธิ์ได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารในลักษณะการจ่ายเงินคืน ในอัตรา 40% ของค่าบัตรโดยสารแต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง
สำหรับโครงการนี้มีวงเงินรวมทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่ ก.ค.-ต.ค.นี้ ส่วนวงเงินอีก 2,400 ล้านบาท นั้น จะเป็นโครงการกำลังใจ ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนค่าเดินทางของอาสาสมัครสาธาณสุขประจำหมู่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพฯ เป็นต้น รวม 1.2 ล้านคน ให้เดินทางกับบริษัทนำเที่ยว ซึ่งรัฐสนับสนุนงบประมาณเดินทางไม่เกินคนละ 2,000 บาท สำหรับการเดินทางที่ไม่น้อยกว่า 2 วัน 1 คืน ตั้งแต่ ก.ค.-ต.ค.นี้