xs
xsm
sm
md
lg

"นิพิฎฐ์" ฟ้อง กกต. ช่วยผู้สมัคร ภท.

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"นิพิฎฐ์" ฟ้องศาลอาญาทุจริตกลางดำเนินคดี กกต. 7 คน ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและผิดพ.ร.บ.กกต. พร้อมมั่นใจหลักฐานชัดกว่าสมัย กกต. ชุดที่เคยถูกจำคุก

วันนี้ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวว่า ตนเองจะไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ให้ดำเนินคดีกับนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. รวม 7 คน ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กระทำผิดรัฐธรรมนูญ และทำผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในการช่วยผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต เพราะการกระทำของ กกต. ทั้ง 7 คน เป็นดุลพินิจที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความสมเหตุสมผล และเป็นการใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจจนล้นออกมานอกเขตของความชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ เป็นการทุจริตตามนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3509/2549 โดยเป็นการทำลายและบั่นทอนระบอบประชาธิปไตย


ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้ยื่นเรื่องต่อกกต.ว่า มีการทุจริตการเลือกตั้งในหมู่ที่ 5 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยมีภาพ มีเสียง มีคลิป และหญิงสาวที่อยู่ในคลิปยอมรับว่า ซื้อเสียงจริง ซึ่งหญิงสาวคนดังกล่าวยอมไปให้การกับกกต. ยอมรับว่าได้เป็นคนซื้อเสียงจริง โดยนำเงิน 4,000 บาท แจกจ่ายให้กับหลานและญาติจำนวน 8 คน แต่มากลับคำให้การบอกว่าเงินดังกล่าวไม่ได้เป็นเงินซื้อเสียง แต่เป็นเงินให้หลานไปซื้อน้ำมันพืช กกต.จึงยกคำร้อง และยังมีหลักฐานโดยมีบัญชีรายชื่อผู้ซื้อเสียง รวมถึงมีคลิปคนทยอยรับเงิน โดยคนที่ซื้อเสียงระบุว่า เบอร์ 9 เป็นเงิน 500 บาท แต่ กกต. ยกคำร้องด้วยเหตุผลที่กล่าวว่า ผู้อัดคลิปไม่ได้ยินว่าคนในคลิปพูดว่าอะไร ทั้งที่มีเสียงชัดเจน บอกให้เลือกผู้สมัครเบอร์ 9

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องกลุ่มไลน์ชื่อว่ากลุ่มเพื่อนนายฉลอง มีสมาชิก 2,400 คน โดยในกลุ่มมีการถ่ายสำเนาบัตรประชาชน 35,000 ใบ แล้วส่งมาในกลุ่ม แต่ กกต.อ้างว่า เป็นเรื่องการสำรวจคะแนนนิยม ทั้งที่คนที่เป็นคนดำเนินการเป็นผู้ใหญ่บ้าน และยังมีการระบุด้วยว่าถ้าถูกจับเพราะซื้อเสียง ให้บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนทำ แต่ กกต. กลับลงโทษ และดำเนินคดีกับคนที่เขียนกลุ่มไลน์เท่านั้น โดยไม่ได้จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งถือว่า กกต. วินิจฉัยตามอำเภอใจ จึงต้องดำเนินคดี


อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ตนเป็นหนึ่งในทีมงานที่เคยเอา กกต. เข้าคุกมาแล้ว และเรื่องนี้มีพยานหลักฐานหนาแน่นมากกว่าคดีที่ กกต. ชุดที่เคยติดคุก พร้อมยืนยันว่า จะทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน และมั่นใจว่าสามารถเอาผิดได้ ถ้าไม่มั่นใจจะไม่ฟ้อง ตนเองจะไม่ยอมติดคุกตอนแก่ จะไปยื่นเรื่องนี้ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ด้วยโดยทำคู่ขนานกันไป
กำลังโหลดความคิดเห็น