ไปรษณีย์ไทย ระบุช่วงคนไทยหยุดอยู่บ้าน ยอดพัสดุต่อวันโต 60% ขณะที่ยอดจัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในโครงการ “ส่งความห่วงใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19” มีกว่า 2 ล้านกิโลกรัม ได้จัดส่งถึงโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว
นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ผลดำเนินโครงการ “ส่งความห่วงใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19” จัดส่งหน้ากากอนามัย หน้ากากอนามัยชนิด N95 ชุด PPE และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับบุคลากรทางแพทย์ จากประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 มีปริมาณธารน้ำใจจากคนไทย ร่วมกันส่งหน้ากากอนามัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ และสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิต ให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งไปรษณีย์ไทยจัดส่งตรงถึงทุกแห่งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวมกว่า 2 ล้านกิโลกรัม
นอกจากนี้ ในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ภาครัฐได้มีมาตรการอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ เว้นระยะห่างทางสังคม การปิดห้างสรรพสินค้า และร้านค้าเป็นการชั่วคราว ยังส่งผลให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมาก ทำให้การส่งสิ่งของผ่านระบบขนส่งโลจิสติกส์เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานด้านการสื่อสารและขนส่งของชาติ ได้ให้บริการรับฝากส่งสิ่งของเข้าสู่เส้นทางไปรษณีย์เพิ่มขึ้นกว่า 60% จากปริมาณงานปกติต่อวัน สะท้อนถึงการเติบโตของอีคอมเมิร์ซและมาร์เก็ตเพลสในโลกออนไลน์
นายก่อกิจ กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย จะพัฒนาและยกระดับบริการให้ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการ ทั้งกลุ่มอีคอมเมิร์ซ ,ร้านค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด และต้องการเปลี่ยนผ่านจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ และผู้ที่เปลี่ยนมาซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการให้บริการเพื่อสังคม เป็นบริการพื้นฐานเคียงคู่คนไทย และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากผ่านเครือข่ายไปรษณีย์ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้ผู้ประกอบการ กลับมาดำเนินธุรกิจได้ หลังภาวะวิกฤติผ่านพ้นไป