ซีอีโอ ปตท.โชว์วิสัยทัศน์ขับเคลื่อนความมั่นคงพลังงานประเทศ

“อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” ซีอีโอ ปตท.คนใหม่ โชว์วิสัยทัศน์นำพา ปตท.ให้เติบโตเข้มแข็ง ร่วมขับเคลื่อนประเทศผ่านการเปลี่ยนแปลง ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ทุกภาคส่วน มุ่งยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ พร้อมพัฒนาสังคม คุณภาพชีวิตของคนไทยให้เติบโตไปด้วยกัน

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. แสดงวิสัยทัศน์อย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากเข้ามารับตำแหน่ง เป็นซีอีโอ ปตท.คนใหม่ ตั้งแต่ 13 พฤษภาคม 2563 โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี โดยประกาศจะนำพา ปตท.ให้เติบโต เข้มแข็ง และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างเป็นธรรม

นายอรรถพล กล่าวว่า ปี 2563 ทั่วโลกและประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 , ราคาน้ำมันผันผวน,ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของสังคม, ธุรกิจ ,พฤติกรรมของผู้บริโภค สู่บริบทใหม่ (New Normal) ซึ่งถือเป็นความท้าทายของประเทศไทย และ ปตท. ที่ยังต้องรักษาความเข้มแข็งของธุรกิจหลัก และสร้างธุรกิจใหม่ แทนที่การเติบโตในรูปแบบเดิม โดยมุ่งหวังจะให้กลุ่ม ปตท.เป็นองค์กรด้านพลังงานของประเทศ และเป็นแรงขับเคลื่อนประเทศไทย ให้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลง โดยใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ

นายอรรถพล กล่าวว่า ปตท.จะดำเนินธุรกิจ ร่วมพัฒนาสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ตามแนวคิด “PTT by PTT”หรือ Powering Thailand's Transformation ซึ่ง “P” คือ Partnership & Platform เน้นการดำเนินธุรกิจ ด้วยการสร้างพันธมิตร และการสร้างธุรกิจของ ปตท.ให้มีลักษณะเป็นแพลตฟอร์ม มากกว่าการเป็นผู้ผลิตสินค้าหรือจำหน่ายสินค้า โดย ปตท. จะดึงพันธมิตรที่มี Knowhow จากต่างประเทศ เน้นความร่วมมือทั้งรัฐวิสาหกิจ เอกชน ผู้ประกอบการไทย เอสเอ็มอี สร้าง New Business Model และ New Eco System ร่วมกัน

“T” คือ Technology For All ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่าง โนว์ฮาว นวัตกรรม และดิจิทัล ทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร ใช้ในทุกมิติการดำเนินงาน ทั้งการสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ การบริหารจัดการองค์กร การขับเคลื่อนสู่ภายนอก สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสังคม

และ “T” ตัวสุดท้าย คือ Transparency and Sustainability สร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ เน้นให้พนักงานผู้ปฏิบัติ มีความเข้าใจการดำเนินงานที่สอดคล้องกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี การประเมินความเสี่ยงอย่างเหมาะสม พร้อมกับพัฒนาการดำเนินธุรกิจให้เกิดความยั่งยืนทั้งมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้ กลุ่ม ปตท. เป็นองค์กรด้านพลังงานของไทย ที่พร้อมขับเคลื่อนประเทศ ให้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลง โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ทุกภาคส่วน

นายอรรถพล กล่าวว่า นอกจากแนวคิดสู่กลยุทธ์ “PTT by PTT” แล้ว กลุ่ม ปตท.นำแนวคิด 4R's มาประยุกต์ใช้ เริ่มตั้งแต่ Resilence สร้างความยืดหยุ่นพร้อมดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สร้างความปลอดภัยให้พนักงาน ประเมินสุขภาพองค์กร ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น จัดความสำคัญของโครงการลงทุน ตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ และรักษาสภาพคล่อง

Restartเตรียมความพร้อมใน การนำธุรกิจ พนักงาน ลูกค้าและคู่ค้า กลับสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุดและรักษาความสามารถทางการแข่งขัน

Re–imaginationในขณะเดียวกันต้องเตรียมออกแบบธุรกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดเป็นNext normalทั้งธุรกิจเดิมและNew S–Curve

และReformพร้อมปฏิรูป จัดโครงสร้างองค์กรและธุรกิจ ให้สอดคล้องกับทิศทางในอนาคตและพร้อมรองรับทุกสถานการณ์อันไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้อีกทุกเมื่อ

นอกจากนี้ ปตท. ได้วางแผนรองรับวิกฤติและลดผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ด้วยการควบคุมค่าใช้จ่ายตามนโยบาย “ลด ละ เลื่อน” โดยลดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น ทำธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ,บริหารความเสี่ยงด้านราคา อุปสงค์ อุปทาน, สินค้าคงคลัง ,บริหารจัดการค่าใช้จ่าย และงบประมาณองค์กร เพื่อให้ก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน