xs
xsm
sm
md
lg

ศบค.แย้มข่าวดี 17พ.ค.เคาะผ่อนปรนเฟส 2

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศบค. เผยผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 3 ราย ถือเป็นข่าวดีคงเลขหลักเดียวต่อเนื่อง พร้อมแย้มเตรียมผ่อนปรนระยะ 2 วันที่ 17 พ.ค. นี้

ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์ของประเทศไทยวันนี้ มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,992 ราย ใน 68 จังหวัด ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดเสียชีวิตสะสม 55 ราย หายป่วยกลับบ้านได้เพิ่มอีก 11 ราย รวมยอดหายป่วยสะสม 2,772 ราย และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 165 ราย ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ ยังเป็นเลขหลักเดียว สะท้อนความร่วมมือที่ดีจากทุกภาคส่วน ซ

ทั้งนี้ ในช่วง 28 วันที่ผ่านมา พบว่า มี 39 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น เช่น เพชรบุรี กาญจนบุรี จันทบุรี นครนายก ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี อำนาจเจริญ อุดรธานี อุบลราชธานี และ ตรัง เป็นต้น ส่วน 9 จังหวัดที่ต้องชมเชย เพราะไม่มีรายงานผู้ป่วยเลย ได้แก่ ชัยนาท ตราด สิงห์บุรี อ่างทอง กำแพงเพชร น่าน พิจิตร บึงกาฬ และ ระนอง


สำหรับผลการประชุมศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานฯ นั้น นายกฯ มีข้อห่วงใย และให้ควบคุมดูแลไม่ให้มีการนำเชื้อเข้ามาจากต่างประเทศ และทำการกักกันในสถานที่ของรัฐจัดเพื่อป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด โดยมีฝ่ายความมั่นคง สาธารณสุข ทหาร ตำรวจ ท้องถิ่น ตรวจสอบมาตรฐานอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ ยังได้สั่งการให้ ศบค.พิจารณา ด้านการต่างประเทศ ผลกระทบการผ่อนคลายสถานกาณ์ และดูแลเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างหนักได้รับเบี้ยเลี้ยงตามสิทธิ

นอกจากนี้ นายกฯมีข้อชี้แนะว่า ให้มีมาตรการแนวทางเฉพาะกิจการ หรือกิจกรรมต่างๆ เช่น รถไฟฟ้า ซึ่งที่ประชุมศบค.เห็นตรงกันว่า การเหลื่อมเวลาทำงาน จะช่วยลดการแออัด และการทำงานอยู่บ้าน เพื่อช่วยลดการเคลื่อนย้ายของคน ซึ่งเข้ากับกระแส New normal โดยนายกฯได้สั่งให้หน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจรายงานการทำงานที่บ้านและการเหลื่อมเวลาการทำงาน ขณะที่สถานศึกษา ให้ขยายช่วงเวลาเปิดเรียนออกไป โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาในการเรียนการสอน เช่น การสอนผ่านออนไลน์ โทรทัศน์ดาวเทียม เป็นต้น


นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการหาแนวทาง ผ่อนปรนของสถานที่ต่างๆ ทั้งร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ อย่างร้านเฟอร์นิเจอร์ ประกันภัย ร้านวัสดุก่อสร้าง ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบในระดับหนึ่ง แต่ต้องดูในข้อกฎหมาย เพื่อพิจารณาเปิดได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของ สมช.ต่อไปและจะนำไปสู่การผ่อนปรนระยะที่ 2 โดยวันที่ 8-12 พ.ค.นี้ จะเปิดรับฟังความคิดเห็นสำหรับชุดข้อมูล และความคิดเห็นต่างๆ ก่อนจะมีการยกร่างข้อกำหนดผ่อนปรน เสนอต่อนายกฯในวันที่ 14 พ.ค. และวันที่ 17 พ.ค. ก็จะเข้าสู่การผ่อนปรน ระยะที่ 2 ในกิจการที่มีขนาดใหญ่ต่อไป ซึ่งกรณีห้างสรรพสินค้า ถ้าทำดี ก็จะได้เปิดแน่นอน เพราะทุกคนก็อยากกลับไปสู่ภาวะปกติ แต่ตอนนี้ก็ต้องเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่บอกไปก่อน เพราะไม่ได้ขึ้นกับภาครัฐอย่างเดียว แต่ประชาชนต้องร่วมมือกันด้วย

ในช่วงท้าย นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมการทำงานจากทุกฝ่ายเป็นแบบวงกว้าง มีทั้งราชการ คณะผู้บริหารทางการเมือง และภาคนักธุรกิจชั้นนำ รวมถึงคณะที่ปรึกษาด้านวิชาการมาประกอบกันเป็นทีมไทยแลนด์ตามที่นายกฯได้กล่าวไว้ จึงถือเป็นความภาคภูมิใจในความเป็นไทยของเรา อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีความเก่งอย่างไร แต่สิ่งสำคัญที่สุดความร่วมมือจากประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จที่สำคัญที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น