“สุชาติ”หนุนเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ พิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน หวังเร่งนำเงินช่วยบรรเทาผลกระทบให้ประชาชน
ที่รัฐสภา นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 รับมอบเครื่องสแกนใบหน้าและตรวจวัดอุณหภูมิ ยี่ห้อ HIP รุ่น CIF 712 พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 ชุด จากนายสุรพล ธนวณิชย์สกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ชอบใจ โฮลดิ้ง จำกัด ขอนแก่น ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ใช้ตรวจคัดกรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บุคลากรในวงงานรัฐสภา สื่อมวลชน และประชาชนผู้มาติดต่อราชการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะติดตั้งบริเวณชั้น 1 อาคารรัฐสภา
โดยนายสุชาติ กล่าวว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทยจะลดลงเรื่อยๆ แต่ยังไว้วางใจไม่ได้ เห็นได้จากประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ที่พอหย่อนมาตรการต่างๆ ลง เชื้อโรคก็กลับมาใหม่ ซึ่งกลัวว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นในไทย จึงต้องวางมาตรการป้องกันให้ดี โดยเฉพาะบริเวณรัฐสภาที่มีคนเข้าออกจำนวนมาก จะย่อหย่อนไม่ได้ เพราะขณะนี้เชื้อยังไม่หมดไป ยิ่งถ้าอยากรีบเปิดสภาก็ต้องวางมาตรป้องกันให้ดี
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อเร่งพิจารณาร่างพ.ร.ก.กู้เงิน และร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณจากหน่วยงานต่างๆ นั้น ส่วนตัวเห็นด้วยให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพราะขณะนี้มีทั้งพ.ร.ก.และพ.ร.บ.ที่ต้องรีบทำโดยไม่ชักช้า เพื่อนำเงินจากส่วนต่างๆ มาช่วยบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่การจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้หรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประธานหรือรองประธานสภาฯ แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะเป็นผู้เสนอ หรือสมาชิกรัฐสภาเข้าชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ถ้าทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ก็เปิดประชุมสมัยวิสามัญได้
ทั้งนี้ หากมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ คงนำเรื่องเกี่ยวกับพ.ร.ก.กู้เงินมาพิจารณาเป็นฉบับแรก ส่วนร่างพ.ร.บ.การโอนงบประมาณจากหน่วยงานต่างๆนั้น ยังไม่ทราบว่ารัฐบาลได้ดำเนินการทำประชาพิจารณ์สอบถามความเห็นจากประชาชนเรื่องผลกระทบต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 แล้วหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนว่าการจะเสนอกฎหมายใดๆ เข้าสภาต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ก่อน ส่วนระยะเวลาการพิจารณา พ.ร.ก.และ พ.ร.บ. ต่างๆ จะใช้เวลากี่วันนั้น ยังไม่ทราบ เพราะขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าจะไม่เปิดประชุมสมัยวิสามัญ โดยรอเปิดประชุมสภาตามปกติในวันที่ 22 พ.ค. นี้ ก็คิดว่า การดำเนินการพิจารณากฎหมายคงไม่ช้า เพราะขณะนี้เหลือเวลาอีกไม่นานจะเปิดประชุมสภาตามปกติแล้ว
