“บิ๊กตู่” ยันไม่ผลีผลามปลดล็อคพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พร้อมขอบคุณ 20 เจ้าสัวล่วงหน้า ย้ำไม่มีแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงถึงผลการประชุมครม.วันนี้ ว่า ได้ประชุมเกี่ยวกับมาตรการการแก้ไข และผลักดันมาตรการสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตนได้เน้นย้ำทุกกระทรวงให้ดำเนินการขับเคลื่อนในทุกมิติ
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันนั้น มีพัฒนาการที่ดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง แต่อย่าพึ่งผลีผลาม ถึงแม้ประชาชนเรียกร้องให้มีการปลด หรือคลายล็อค ต้องระวังอย่างที่สุด ฟังข้อมูลจากสาธารณสุขและการแพทย์ว่าเรามีมาตรการรองรับเพียงพอแล้วหรือไม่ ตนไม่ต้องการให้การตัดสินใจเกิดจากแรงกดดัน ต้องทำตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ถ้าเราคลายล็อกเร็วเกินไป จะเกิดการแพร่ระบาดมากขึ้น สิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็จะล้มเหลว จะต้องดูแลเป็นพิเศษ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการส่งจดหมายปิดผนึกไปยังมหาเศรษฐี 20 คนของไทยว่า เป็นการส่งเปิดเผย เพื่อร่วมรับฟังว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนจะมีความสุข สามารถจะมีชีวิตอยู่ได้ในช่วงเวลานี้ โดยให้เดือดร้อนน้อยที่สุด “จึงขอความร่วมมือจากพวกท่าน ซึ่งทราบว่าทุกคนก็ทำมามากพอสมควรแล้ว วันนี้ก็เพียงแต่อยากจะทราบว่าท่านจะทำอะไรได้มากกว่านี้อีกหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท่านจะพิจารณาของท่านเอง สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องของการแข่งขัน การบังคับ หรือการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น ผมไม่ได้ต้องการ ผมเพียงต้องการระดมความคิดเห็นความร่วมมือต่างๆจากทุกภาคส่วน ซึ่งนอกจากทั้ง 20 ท่านแล้ว ผมก็ยินดีหากภาคส่วนอื่นๆจะมีอะไรที่จะช่วยเหลือประชาชนให้ผมทราบ ก็สามารถทำเรื่องมาได้ ทั้งนี้ ผมคงไม่ได้ไปพบด้วยตัวของผมเองทั้ง 20 ท่าน แต่ก็มีรายชื่อ มีการประกาศออกมาแล้ว ซึ่งจดหมายเปิดผนึก ก็มีรายละเอียดอยู่แล้วว่าไม่ขอรับเงินบริจาคใดๆทั้งสิ้น จึงขอร้องว่าอย่าไปบิดเบือน” นายกฯกล่าว
นอกจากนี้ นายกฯยังกล่าวถึงกรณีประชาชนยังละเมิด พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ก็มีจำนวนมากอยู่ขอให้ประชาชนร่วมมือกับรัฐบาล จะเห็นได้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง จำนวนผู้ที่รักษาหายมีมากขึ้น เพราะเกิดจากการที่ประชาชนร่วมมือกับรัฐบาล ยิ่งร่วมมือมากยิ่งลดลงมาก อีกทั้ง ตนไม่เคยประกาศว่าจะเริ่มปลดล็อค ในวันที่ 1 พฤษภาคม ทุกอย่างขึ้นกับสถิติของสาธารณสุข ทำทุกอย่างให้มีความรอบคอบ ผู้ประกอบการจะต้องเสนอมาตรการต่าง ๆ ให้ทราบว่าจะมีการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไร ทั้ง สถานที่ การรักษาความปลอดภัย การตรวจวัดอุณหภูมิ การเว้นระยะห่าง ทุกอย่างต้องพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนตัวรู้ว่าประชาชนเดือดร้อน ถ้าหากมีการติดเชื้อมากกว่านี้จะทำยังไง ไม่อยากให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวล
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงมาตรการการลดค่าไฟฟ้า ว่า ได้พูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ต้องเห็นใจว่างบประมาณต่าง ๆ ต้องใช้ในการบริหารประเทศต่อไปในอนาคต รัฐบาลดูแลเต็มที่ อย่าเชื่อข่าวใส่ร้าย บิดเบือน ไม่เป็นประโยชน์ ทำให้การทำงานยาก มีผลกระทบในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม จะมีการพิจารณา พ.ร.ก. ฉุกเฉิน อีกครั้งในวันอังคารที่ 28 เมษายนนี้ ในที่ประชุม ครม. ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความร่วมมือ และสถิติจากสาธารณสุขเป็นหลัก
