xs
xsm
sm
md
lg

“ราเมศ”เดือด ยัน “จุรินทร์”ฟ้อง“อัจฉริยะ”ไม่ใช่ปิดปาก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ราเมศ”เดือด ยัน “จุรินทร์”ฟ้อง“อัจฉริยะ”ไม่ใช่ปิดปาก แต่เพื่อใช้สิทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แจ้งความดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ทนายความ ในข้อหาหมิ่นประมาทและกระทำผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ว่า เป็นการใช้สิทธิ์ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่ใช่เป็นการฟ้องเพื่อปิดปาก หรือดำเนินคดีเพื่อหยุดการตรวจสอบกรณีที่มีการกล่าวหาว่าบุคคลภายในพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัย แต่เป็นกระบวนการใช้สิทธิ์ขั้นพื้นฐานในฐานะประชาชน ที่เมื่อถูกกล่าวหาใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จก็ย่อมมีความจำเป็นที่จะต้องปกป้องสิทธิ์ ปกป้องชื่อเสียงตามกระบวนการยุติธรรมที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ความจริงอย่างตรงไปตรงมา


โดยเรื่องดังกล่าว ทุกฝ่ายตรวจสอบกันเต็มที่และถึงที่สุด ทุกคนไม่สามารถหนีความจริงได้ เมื่อมีหลักฐานก็ควรไปยื่นเข้าสู่กระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นกรรมาธิการในสภา ไม่ว่าจะเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็ขอให้ตรวจสอบให้เต็มที่ ถ้าเราต้องการให้การเมืองสุจริต เรื่องนี้จะต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ ผ่านกระบวนการตรวจสอบด้วยข้อมูลที่ตรงไปตรงมา อยู่บนพื้นฐานของความจริงที่ถูกต้อง และอยู่บนพื้นฐานพยานหลักฐานที่เที่ยงตรง การกล่าวหาด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จใส่ร้ายนั้น เป็นสิ่งที่คนดีเขาไม่ทำกัน

ทั้งนี้ การที่นายอัจฉริยะ ตั้งต้นตรวจสอบเรื่องนี้ แต่กลับกล่าวหานายจุรินทร์ ในเรื่องการออกประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้า และบริการ ฉบับที่ 2 ในเรื่องการควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งหน้ากากอนามัยนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นการกล่าวหาด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จทั้งสิ้น เพราะกฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร.ต้องผ่านความเห็นชอบจาก ครม. ให้เป็นอำนาจของ กกร. ที่เมื่อประกาศในส่วนรายละเอียดก็เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกร. จึงไม่จำต้องนำเข้าคณะรัฐมนตรีอีก เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีการกล่าวเท็จด้วยการระบุว่าประกาศมีพิรุธเนื่องจากเป็นประกาศที่ออกเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2563 แต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 20 ก.พ. เพราะความจริงแล้วประกาศฉบับดังกล่าวมีผลตามกฎหมายใช้บังคับวันถัดไป นับถัดจากวันประกาศ นั่นคือวันที่ 5 ก.พ. ซึ่งประกาศทั้งหมดล้วนเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ


นายราเมศ ยังกล่าวถึงกรณีนายอัจฉริยะ กล่าวหานายจุรินทร์ว่าเป็นผู้ลงนามอนุมัติให้มีการส่งออกหน้ากากอนามัยนั้น เรื่องนี้ก็ไม่เป็นความจริง เพราะนายจุรินทร์ไม่เคยลงนามให้มีการส่งออกหน้ากากอนามัย นอกจากนี้ ยังพบว่าตัวเลขการส่งออกเดือน ม.ค. และ ก.พ. ไม่ตรงกับที่นายอัจฉริยะอ้างถึงแม้แต่ตัวเลขเดียว ซึ่งเรื่องนี้กรมศุลกากรจะเป็นผู้ตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุด

นายราเมศ กล่าวอีกว่า ตนเองยินดีในเรื่องการดำเนินการตรวจสอบนักการเมือง เพราะนั่นคือการตั้งต้นให้มีการเมืองที่สุจริต ขอให้อย่าหยุดการตรวจสอบ และจะต้องทำให้เกิดความโปร่งใส “คุณบอกว่าคุณตรวจสอบเรื่องนี้เพื่อให้ทุกอย่างเกิดความโปร่งใส แต่พอนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขอเอกสารหลักฐานไปยังคุณอัจฉริยะกลับไม่ให้ความร่วมมือ วันนี้ ผมเรียกร้องคุณอัจฉริยะว่า หยุดทำลายผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ผมคิดว่าทุกคนอดทนมามากพอ คุณอัจฉริยะนัดเวทีไหนก็ได้ ขอให้จัดมาสักเวทีแล้วเราเอาความจริงมาพูดกันทุกคนจะได้ทราบข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน ตรงไปตรงมา ไม่มีอ้อมค้อม”นายราเมศ กล่าวในช่วงท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น