ขนส่งสาธารณะ เพิ่มความถี่บริการ ก่อนถึงเวลาเคอร์ฟิว

รถเมล์ ,รถไฟฟ้า เพิ่มความถี่การให้บริการ ก่อนเคอร์ฟิว 4 ทุ่ม หลังประชาชนร้องเรียน รถไม่พอบริการ แต่ต้องเข้มงวดใช้มาตรการ social distancing

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ผู้ให้บริการ ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก., การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ,บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.หรือ แอร์พอร์ต ลิงก์ เพิ่มจำนวนรถที่ให้บริการประชาชน ในช่วงก่อนเคอร์ฟิว 22.00 น. และก่อนเริ่มวันใหม่ เวลา 04.00 น. โดยให้เริ่มดำเนินการทันทีตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป พร้อมกำชับผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ต้องปฎิบัติตามหลักเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) โดยเคร่งครัด

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมา ผู้ว่าการ รฟม. บอกว่า ได้หารือกับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ( BEM) เพื่อเพิ่มความถี่ขบวนรถที่เข้าสถานีในช่วงเช้าที่เปิดให้บริการ และก่อนปิดให้บริการตามประกาศเคอร์ฟิวของภาครัฐ (22.00-04.00 น.) และจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่ารถขบวนสุดท้ายที่จะออกจากสถานีคือเวลา 21.30 น. ดังนั้นผู้โดยสารที่จะเดินทางกลับเคหสถาน ต้องเผื่อเวลาการเดินทางด้วย และยอมรับด้วยว่า การทำ social distancing ทำให้แต่ละขบวน ปกติจะรับผู้โดยสารสูงสุด 1,000 คน แต่ปัจจุบัน รับผู้โดยสารได้ประมาณ 100 คน เท่านั้น

ด้าน นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. บอกว่า รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ พร้อมดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม โดยปรับลดระยะห่างของรถ จากเข้าสถานี ทุก 10 นาที เป็น 8 นาที และยอมรับเช่นกันว่า social distancing ทำให้รถแต่ละขบวน ลดจำนวนผู้โดยสารที่สามารถเดินทางไ ด้จากขบวนละ 745 คน เหลือ 130 คน

นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการ ขสมก. บอกว่า แนวทางแก้ปัญหาความต้องการใช้บริการรถเมล์ ในช่วงเคอร์ฟิวของ ขสมก. ช่วงเช้า จะให้รถเมล์ ซึ่งปกติจะให้บริการคันแรกเวลา 05.00 น. หลังจากนี้ จะให้รถที่มีความพร้อม ออกเดินรถก่อนเวลา 05.00 น. และปรับความถี่การออกรถเป็นความถี่เดียวกับชั่วโมงเร่งด่วน คือ มีรถออกจากอู่ ระยะห่างไม่เกิน 5-7 นาที ส่วนช่วงก่อนปิดให้บริการในช่วงเคอร์ฟิว ขสมก.จะออกรถคันสุดท้ายเวลา 20.00 น. โดยขึ้นป้าย ประกาศว่า รถคันใด เป็นรถก่อนครั้งสุดท้าย และรถคันใดเป็นครั้งสุดท้าย