กระทรวงอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 หรือ สถานการณ์ภัยแล้ง
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานบอร์ดบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ฯ กล่าวว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 และสถานการณ์ภัยแล้ง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในวงกว้าง โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจของ SME รวมทั้งที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อของสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบขณะที่คณะรัฐมนตรี ก็มีมติอนุมัติมาตรการดูแล และเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งด้านการเงิน ภาษี การชดเชยรายได้และการเสริมความรู้ ออกมาอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีฯ ซึ่งมีผู้ได้รับสินเชื่อกว่าหมื่นรายนั้น พบว่า มีธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 หรือภัยแล้ง กว่า 5,600 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มธุรกิจเกษตรแปรรูป บริการ ค้าปลีก และท่องเที่ยว คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ จึงอนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับสินเชื่อกลุ่มดังกล่าว โดยให้พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
SMEที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อกองทุนฯ ที่ยังไม่ด้อยคุณภาพ (Non NPL) หรือไม่อยู่ในระหว่างที่ถูกกองทุนดำเนินคดี ก่อนวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 สามารถยื่นความประสงค์ เข้าร่วมมาตรการด้วยความสมัครใจที่ธนาคารพัฒนาวิสากิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศได้ทุกสาขา ทั่วประเทศในเขตพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ได้ ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน จนถึง 30 มิถุนายน 2563 โดยต้องแสดงความประสงค์การขอพักชำระหนี้เงินต้น และยืนยันผลกระทบพร้อมระบุเหตุผลที่เกิดขึ้น พร้อมกับระบุประเด็นที่ประสงค์จะขอรับการส่งเสริม เช่น ด้านการตลาด การเงิน และการผลิต เพื่อประกอบการพิจารณาและให้ความช่วยเหลือต่อไป
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า มาตรการดังกล่าว นอกจากจะช่วยเหลือบรรเทาภาระการชำระหนี้ของ SME ที่เป็นลูกหนี้กองทุนแล้ว ยังเป็นการเสริมสภาพคล่อง และลดแนวโน้มการเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อีกด้วย ซึ่งคณะกรรมการกองทุนจะประเมินผลการใช้มาตรการนี้ใน 2 เดือนข้างหน้า