กรมการค้าภายใน ชี้แจงประเด็น “หน้ากากอนามัย”มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง ไม่ใช่กระทรวงพาณิชย์ฝ่ายเดียว และยืนยันกระบวนการจัดสรร ทุกขั้นตอนโปร่งใส ตรวจสอบได้
นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ชี้แจงกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญกรรม ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมมีโรงงานหน้ากากอนามัยเพียง 11 บริษัท ที่ผลิตส่งให้กับกรมการค้าภายใน ทั้งที่มีอยู่จริงประมาณ 14 โรงงาน และอยากรู้ขั้นตอนการจัดส่ง เพื่อตรวจสอบช่องโหว่ ที่ทำให้หน้ากากอนามัยหลุดรอดไปตลาดมืด
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน บอกว่า “หน้ากากอนามัย” แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก ถือเป็นเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ การจัดตั้งโรงงานได้ จะต้องได้รับตรวจสอบและขออนุญาตจากองค์การอาหารและยา หรือ อย. ก่อน ซึ่งจะมีข้อมูลทั้งกำลังการผลิต และประเภทของหน้ากากอนามัยทั้งหมด
อีกกลุ่ม เป็นหน้ากากอนามัยแบบทั่วไป หรือ ที่ใช้ในอุตสาหกรรม ซึ่งต้องขออนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ได้ประสานข้อมูลจากแหล่งที่มีความเชี่ยวชาญทั้งหมด และที่สำคัญ กระทรวงพาณิชย์ เพิ่งเข้ามาควบคุมสินค้าหน้ากากอนามัย เพียงเดือนกว่าๆ เท่านั้น ดังนั้นจำนวนโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย จะมีกี่แห่งนั้น น่าจะต้องถามจาก อย. เพราะเป็นหน่วยงานรับรอง แต่หากเป็นโรงงาน ที่ไม่ผ่านมาตรฐาน ก็จะถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องประสานหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน บอกด้วยว่า การจัดสรรหน้ากากอนามัย ยึดหลักการจัดสรรให้กระทรวงสาธารณสุข เพื่อไปกระจายให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันได้เกินวันละ 8 แสนชิ้นแล้ว ส่วนที่เหลือ จัดสรรให้กับกลุ่มเสี่ยงที่ทำเรื่องขอมา เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ,ท่าอากาศยานไทย ,ค้าปลีกต่างๆ เพื่อกระจายสู่ประชาชน โดยเตรียมลดขั้นตอนการจัดสรร จากโรงงานไปยังห้างและร้านค้าธงฟ้าโดยตรง ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ จะดูในภาพรวมตัวเลขการจัดสรร และขอยืนยันว่า เรื่องนี้ มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่กระทรวงพาณิชย์ทำฝ่ายเดียว ซึ่งทุกขั้นตอน สามารถตรวจสอบได้
